อุบลราชธานี - อากาศเปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบ ทำปลาเลี้ยงในกระชังริมแม่น้ำมูลใน อ.สว่างวีระวงศ์ น็อกน้ำตายกว่า 150 ตัน ความเสียหายกว่า 9 ล้านบาท อำเภอร่วมประมงลงสำรวจความเสียหาย บอกแจ้งเตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาล่วงหน้าแล้ว แต่เก็บขึ้นขายไม่ทัน เบื้องต้นรายงานจังหวัดให้ความช่วยเหลือผู้เลี้ยงปลาที่ได้รับผลกระทบแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทำให้ปลาเลี้ยงในกระชังริมแม่น้ำมูล ของเกษตรกรในบ้านแพง ต.สว่าง และ ต.บุ่งมะแลง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี เกิดอาการน็อกน้ำตายอย่างฉับพลัน ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 7 มิ.ย. โดยมีเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาได้ความเสียหายขณะนี้จำนวน 11 ราย รวม 144 กระชัง คิดเป็นน้ำหนักกว่า 159,000 กิโลกรัม หรือกว่า 150 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 9 ล้านบาท
หลังเกิดเหตุ นายจักรพงศ์ พันธุ์เพ็ง นายอำเภอสว่างวีระวงศ์เข้าสำรวจความเสียหายพร้อมรายงานให้เจ้าหน้าที่ประมงลงตรวจสอบ โดยระบุว่าสาเหตุเกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน และมีน้ำหนุนทำให้อุณหภูมิของน้ำไม่สม่ำเสมอ ปลาปรับตัวไม่ทันจึงตายลงจำนวนมากในเวลาพร้อมกัน
เมื่อสัปดาห์ก่อน อำเภอมีการประชุมผู้ประกอบการแจ้งให้นำปลาที่โตออกขายเพราะเกรงได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ แต่เนื่องจากมีปลาจำนวนมากนำออกขายไม่ทันทำให้มีปลาน็อกน้ำตายดังกล่าว ซึ่งได้รายงานขอความช่วยเหลือไปทางจังหวัดแล้ว
เบื้องต้นผู้เลี้ยงปลากระชังได้ลดความเสียหายโดยลำเลียงปลาที่ตายใหม่ขึ้นมาขายในราคาถูกจากราคาต้นทุนกิโลกรัมละ 60 บาท ขาย 3 กิโลกรัม 100 บาท อีกส่วนนำไปหมักทำเป็นปลาร้าขายในราคาถูกกิโลกรัมละ 15-20 บาท และในส่วนที่ยังไม่ตายได้เพิ่มออกซิเจนให้