xs
xsm
sm
md
lg

วิกฤตภัยแล้งกระทบผู้ประกอบการรถสีข้าวเมืองน้ำดำรายได้หด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้ประกอบการรถสีข้าวในจ.กาฬสินธุ์ ได้รับผลกระทบจากภาวะแล้งที่ยาวนาน
กาฬสินธุ์ - ผลกระทบจากวิกฤตภัยแล้งกระทบผู้ประกอบการรถสีข้าวกาฬสินธุ์กว่า 800 คัน รายได้ทรุดฮวบจากเคยมีรายได้รับจ้างสีข้าวคันละ 6 หมื่นถึง 1 แสนบาทต่อปี เหลือเพียงแค่ 5 พันบาท เหตุฝนทิ้งช่วง ชาวนาไม่ได้ทำนา ทั้งรถเกี่ยวข้าวต่างพื้นที่แย่งงาน

สถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นยาวนานส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพและวิถีชีวิตของผู้คนรอบด้าน ที่ จ.กาฬสินธุ์ นอกจากจะทำให้เกษตรกรและชาวประมงเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลา เสียโอกาสการประกอบอาชีพและสร้างรายได้เป็นอย่างมากแล้ว ในส่วนของผู้ประกอบการรถสีข้าวเองก็ได้รับความเดือดร้อนมากเช่นกัน

โดยนายเฉลิม ไทรชมพู อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 25 หมู่ 3 บ้านแดง ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ผู้ประกอบการรถสีข้าวกล่าวว่า จากฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวนาปีถึงข้าวนาปรังปีนี้ถือเป็นช่วงวิกฤตหนักสุดของวงการรถสีข้าว เนื่องจากมีงานให้สีข้าวน้อยมาก จากที่เคยได้รับจ้างสีวันละ 5-10 แห่ง กลับได้เพียงวันละแห่ง 2 แห่งเท่านั้น หรือหากเทียบกับปีก่อนๆ ที่รับจ้างสีข้าวทั้งนาปีและนาปรัง มีรายได้รวมปีละ 6 หมื่นถึง 1 แสนบาท

ธุรกิจรถสีข้าวได้รับความนิยมมาประมาณ 20 ปี เพื่อบริการสีข้าวให้กับพี่น้องชาวนา สะดวกรวดเร็วกว่าการนวดข้าวด้วยแรงงานคน คิดค่าจ้าง 2 บาทต่อถุง (25-30 ก.ก.) ก่อนที่จะปรับราคาที่ถุงละ 5 บาท ทั้ง จ.กาฬสินธุ์ มีรถสีข้าวไม่น้อยกว่า 800 คัน โดยตนมีรถสีข้าว 3 คัน มีรายได้ดีจากการสีข้าว แต่ห้วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเกิดภาวะฝนแล้ง ชาวนาทำนาได้ไม่เต็มที่ ประกอบกับมีรถเกี่ยวข้าวจากต่างถิ่นเข้ามาแย่งงานทำให้รายได้หายไปจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังปีนี้เกิดซบเซาหนัก มีรายได้ไม่ถึง 5 พันบาท

อย่างไรก็ตาม ยังถือเป็นความโชคดีอยู่บ้างที่ อ.ยางตลาด อยู่ในพื้นที่ใช้น้ำชลประทานจึงพอมีชาวนาได้ทำนาและได้รับจ้างสีข้าวเป็นรายได้เสริม ขณะที่ผู้รับจ้างรถสีข้าวรายอื่นๆ ได้เลิกล้มกิจการและขายรถสีข้าวไปเนื่องจากตกงาน และรายได้ไม่คุ้มกับค่าซ่อมบำรุง


กำลังโหลดความคิดเห็น