xs
xsm
sm
md
lg

นร.คลองเขื่อนแปดริ้วไร้น้ำใช้ เอกชนเข้าช่วยเบื้องต้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - เด็กนักเรียนคลองเขื่อน เมืองแปดริ้ว ยังขาดแคลนน้ำใช้หลังแล้งนาน ทำน้ำใต้ดินเปรี้ยวจัด ครูอาจารย์ต้องควักเงินช่วยซื้อน้ำประปาจากภายนอกมาให้เด็กๆ ได้ใช้กัน ด้านผู้นำชุมชนระบุยังไม่เคยมีฝนใหญ่ตกในพื้นที่เลย ขณะภาคเอกชนรุดเข้าให้การช่วยเหลือทันควัน ขนแท็งก์น้ำเข้ามาแจกตั้งท่ารอฝนหวังให้กักตุนน้ำไว้ใช้ในปีหน้า

วันนี้ (1 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. นางสำราญ ไทยนิยม ผอ.โรงเรียนโสภณประชาเทวารุทธารักษ์ ตั้งอยู่เลขที่ 24 ม.5 ต.คลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงสภาพปัญหาของโรงเรียนที่ยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน และต่อเนื่องมาเป็นเวลาถึง 2 ปีติดต่อกัน ว่า หลังจากเปิดภาคเรียนมาในช่วงกลางเดือน พ.ค.59 ที่ผ่านมานั้น ทางโรงเรียนยังคงประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ให้แก่เด็กนักเรียนอย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากน้ำในบ่อดิน และน้ำจากโครงการประปาหมู่บ้านนั้นมีรสเปรี้ยวจัด

ซึ่งปัญหาได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงก่อนปิดเทอมของภาคเรียนที่ผ่านมา หลังจากเริ่มเข้าสู่ฤดูแล้งในปลายเดือน ม.ค.59 จนทำให้ทางโรงเรียนนั้นต้องสั่งซื้อน้ำประปาจากภายนอกมาให้แก่นักเรียนในโรงเรียนใช้ในราคาคันรถละ 700 บาท ซึ่งสามารถใช้อุปโภคบริโภคภายในโรงเรียนได้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ นอกจากปัญหาแหล่งน้ำตามธรรมชาติในโรงเรียนที่มีรสเปรี้ยว และส่งผลกระทบต่อนักเรียนในโรงเรียนแล้ว ทางโรงเรียนยังขาดแคลนน้ำที่จะใช้ในการรดต้นไม้ภายในบริเวณโรงเรียนอีกด้วย

จึงทำให้ไม่สามารถที่จะสอนให้นักเรียนทำกิจกรรมปลูกผัก ปลูกหญ้า รดน้ำต้นไม้ภายในโรงเรียนได้ จึงอยากให้สังคมภายนอก หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลช่วยเหลือในเรื่องของระบบน้ำภายในโรงเรียนที่เป็นปัญหาสำคัญในช่วงฤดูแล้งเกือบทุกๆ ปี ที่ผ่านมา

สำหรับโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนของรัฐ ประจำท้องถิ่น ที่ให้บริการแก่บุตรหลานของชาวบ้านในเขตบริการ 2 หมู่บ้าน คือ ม.4 และ ม.5 ต.คลองเขื่อน ตลอดจนบุตรหลานของชาวบ้านจากบริเวณใกล้เคียงโดยรอบจากหมู่บ้านอื่นๆ ที่ได้เข้ามาเรียนด้วย ปัจจุบัน ในโรงเรียนมีนักเรียน จำนวน 139 คน มีครูประจำการ จำนวน 8 คน ครูอัตราจ้าง 1 คน และพนักงานราชการ 1 คน สอนในระดับ อนุบาล จนถึง ป.6 นางสำราญ กล่าว

ด้าน นายสำเริง เนตรสาคร กำนันตำบลคลองเขื่อน กล่าวว่า สาเหตุที่น้ำตามธรรมชาติในบริเวณพื้นที่แห่งนี้มีรสเปรี้ยวนั้น เนื่องจากพื้นดินในบริเวณนี้มีสภาพเป็นกรด ขณะที่ในช่วงฤดูแล้งนั้นจะไม่มีน้ำมาช่วยหมุนเวียนถ่ายเทให้สภาพความเป็นกรดในดินนั้นเจือจางลง จึงทำให้น้ำในบ่อดินที่กักเก็บไว้มีรสชาติเปรี้ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นน้ำกระด้างไม่สามารถที่จะละลายผงซักฟอก หรือสบู่ให้เกิดฟองได้ โดยเฉพาะพื้นที่ตรงบริเวณที่ขาดน้ำจืดเข้ามาหมุนเวียนเป็นเวลานานๆ จึงต้องรอให้มีฝนตก หรือถึงช่วงฤดูฝนท่านั้นจึงจะมีน้ำเข้ามาหมุนเวียนถ่ายเทได้

เนื่องจากตามลำคลองต่างๆ ทุกสายในพื้นที่นี้น้ำจะแห้งขอดลงไปหมด นับตั้งแต่ในช่วงของเดือน ม.ค.เป็นต้นมา โดยเฉพาะในช่วงของปี 2558 -2559 ต่อเนื่องกันถึง 2 ปี ที่ผ่านมานี้ ถือว่าเป็นปีที่แล้งที่สุด โดยในปี 2558 นั้นกว่าจะมีฝนตกในพื้นที่ก็ต้องรอกันไปจนถึงช่วงของเดือน ส.ค. ขณะที่ในปีนี้เวลาผ่านมาจนถึงช่วงสิ้นเดือน พ.ค.59 ไปแล้ว ในพื้นที่ก็ยังไม่เคยมีฝนใหญ่เข้ามาตกเลย มีเพียงละอองฝนเม็ดเล็กๆ เข้ามาตกอย่างประปรายเท่านั้น จึงทำให้น้ำที่มีอยู่ในบ่อกักเก็บเกิดความเปรี้ยวจัดอย่างเข้มข้นขึ้น

โดยเฉพาะบ่อเก็บน้ำของทางโรงเรียนเองนั้นก็ถือว่าเป็นแหล่งเก็บน้ำแห่งสุดท้ายของหมู่บ้านแล้วที่ยังคงมีน้ำหลงเหลืออยู่ เพราะในบ่อน้ำของชาวบ้านเองนั้น หลายครอบครัวได้แห้งหายไปหมดก่อนหน้านานแล้ว และมีชาวบ้านหลายรายที่ต้องซื้อน้ำประปามาใช้กันเอง และหากในเดือน มิ.ย.59 นี้ ในพื้นที่ยังไม่มีฝนใหญ่เข้ามาตกอีกก็จะทำให้ชาวบ้านขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภคกันอย่างรุนแรงมากขึ้น นายสำเริง กล่าว

ด้าน ด.ญ.ณัฏฐวรินท์ ศรีกุฎี อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 กล่าวว่า อยากให้คนใจบุญเข้ามาช่วยทำให้น้ำในโรงเรียนไม่ให้เปรี้ยว จะได้แปรงฟันแล้วไม่รู้สึกว่าเปรี้ยวปาก โดยในปีนี้ต้องใช้น้ำเปรี้ยวๆ แบบนี้ในการแปรงฟันอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ยังดีที่น้ำที่บ้านยังไม่เปรี้ยวเหมือนน้ำที่โรงเรียน ด.ญ.ณัฏฐวรินท์ กล่าว

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานต่อเนื่องว่า หลังชาวบ้านในพื้นที่ ต.คลองเขื่อน กำลังได้รับความเดือดร้อนจากสภาพน้ำที่เริ่มเป็นกรดเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะตามโรงเรียนต่างๆ ที่มีเด็กนักเรียนจำนวนมากกำลังได้รับผลกระทบนั้น ได้มีองค์กรภาคเอกชนได้เริ่มเข้ามาให้การช่วยเหลือบ้างแล้ว ด้วยการนำถังสำหรับเก็บน้ำฝนขนาด 2,000 ลิตร มาแจกจ่ายให้ตามโรงเรียนต่างๆ เพื่อไว้เป็นที่สำหรับรองรับน้ำหากมีฝนตกลงมาในพื้นที่บ้าง

โดย นายกำพล เลิศเกียรติดำรง นายกสโมสรไลออนส์ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ทางสโมสรได้ประชุมคณะกรรมการในพิจารณาเข้ามาให้การช่วยเหลือโรงเรียนที่กำลังขาดแคลนน้ำจากปัญหาภัยแล้ง ด้วยการนำถังสำหรับเก็บน้ำฝนขนาด 2 พันลิตร เข้ามาแจกจ่ายให้แก่ทางโรงเรียนที่กำลังเดือดร้อนได้มีถังเก็บน้ำไว้ดื่มกิน และทางสโมสรยังมีนโยบายที่จะแจกจ่ายถังน้ำเพิ่มขึ้นอีกในทุกๆ ปี จากเดิมปีละ 5 ถัง เป็นปีละ 10 ถัง เนื่องจากปัญหาภัยแล้งนั้นได้มีแนวโน้มที่จะรุนแรงเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี

ซึ่งสามารถดูได้จากการที่มีโรงเรียนต่างๆ นั้นได้เริ่มมีการร้องขอความช่วยเหลือจากทางไลออนส์ฉะเชิงเทราเข้ามามากขึ้นต่อเนื่องทุกปีในการที่จะหาภาชนะสำหรับเก็บน้ำฝนไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง






กำลังโหลดความคิดเห็น