xs
xsm
sm
md
lg

ฤดูน้ำหลากพรานปลานครพนมออกเรือหาปลาน้ำโขงสุดคึกคัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ปลาแม่น้ำโขงที่หาได้ จะถูกนำมาวางจำหน่ายที่ตลาดสดเทศบาลเมืองนครพน
นครพนม - ถึงฤดูน้ำหลาก พรานแห่ล่าปลาน้ำโขงที่ อ.เมืองนครพนม ออกหาปลากันคึกคัก สร้างรายได้งามสูงสุดถึงวันละ 2,000 บาท เผย “ปลาโจก” ราชินีปลาแม่น้ำโขงเป็นที่นิยมสูงสุด ทั้งราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 280 บาท เหตุเนื้อหวานอร่อย ทำเมนูเด็ดได้หลากชนิด

ช่วงฤดูฝนน้ำหลากที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเริ่มสูงขึ้นจากฝนตกหนักช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านที่มีอาชีพหาปลา โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.ท่าค้อ อ.เมืองนครพนม ต่างนำเรือหางยาวออกลากอวนหาปลาโกยรายได้เป็นล่ำเป็นสันตกวันละ 800-2,000 บาท ทำให้ตลาดค้าปลากลับมาคึกคึกอีกครั้ง ถือเป็นช่วงฤดูกินปลา เนื้อปลาขายดิบขายดี สวนทางกับเนื้อหมูและเนื้อวัวที่มีราคาแพงมาก

นายอัครเนตร กุลทอง วัย 38 ปี พรานล่าปลาในน้ำโขง กล่าวว่า มีอาชีพหาปลามานานกว่า 20 ปี บริเวณจุดรวมเรือ บ.ท่าค้อ หมู่ 6 จะมีชาวประมงพื้นบ้านกว่า 20 ราย ทยอยนำเรือกีบติดเครื่องยนต์ออกหาปลากันเป็นคิว ลงทุนเติมน้ำมันวันละ 4 ลิตร ออกหาปลาห่างจากฝั่ง 500-800 เมตร นำอวนยาว 800 เมตร-2 กิโลเมตร ไปวางมีทุ่นเป็นระยะๆ แต่ละวันจะออกเรือร่วมกับพี่ชาย 3-4 เที่ยว ได้ปลาอีตุ ซึ่งเป็นปลามีเกล็ดวันละ 10-15 กิโลกรัม นิยมนำไปทำก้อย-ลาบ ก่อนรวบรวบใส่กระสอบนำใส่รถไปขายที่ตลาดสดในตัวเมือง ตกกิโลกรัมละ 80-100 บาท ทำให้มีรายได้ตกวันละ 800-1,000 บาท หากขยันออกหาปลาตั้งแต่กลางดึกจะมีรายได้มากถึง 2,000 บาทเลยทีเดียว

ด้านนางบุญ สมจิตร อายุ 48 ปี กล่าวว่า สามีคือ นายชัยรัตน์ โสภา อายุ 45 ปี จะตระเวนหาปลาในน้ำโขงช่วงตั้งแต่ 2 ทุ่ม บางวันออกตั้งแต่ตี 2 เรือและคนหาปลามีมาก ใครมาก่อนได้คิวเรือก่อน จะนำเรือออกลากอวนทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมง ก่อนลากอวนใส่เรือ บางวันโชคดีได้ปลาแค้น้ำหนัก 20-30 กิโลกรัม แต่หากได้ปลาโจก ซึ่งเป็นปลาเกล็ด มีราคาแพงกว่าปลาบึก ราคาจะพุ่งสูงกิโลกรัมละ 270 บาท จะมีรายได้วันละ 2,000-3,000 บาท นอกจากนี้จะได้ปลาเผาะ ปลาปาก ก่อนนี้เมื่อ 2 ปีที่แล้วสามีเคยลากอวนใกล้ตลิ่งได้ปลากระเบนน้ำจืดยักษ์ หรือคนอีสานเรียก “ปลาผา” น้ำหนักถึง 200 กิโลกรัมมาแล้ว

ด้านนางแสงจันทร์ แฟนกลม วัย 70 ปี กล่าวว่า ตนมีอาชีพหาปลาบริเวณตลิ่งแม่น้ำโขงห่างจากจุดรวมเรือ 100 เมตรไปทางทิศใต้ เคยตกได้ปลากระเบนน้ำหนัก 4-5 กิโลกรัม จนชาวบ้านเรียกว่าท่า “ปลาผา” หากวันไหนนำยอ หรือชาวบ้านเรียก “สะดุ้ง” มายกไม่ได้ เพื่อนบ้านจะนำปลามาให้เพื่อขอให้กลับบ้านเพราะสงสารเห็นว่ามีฐานะยากจนและอายุมากแล้ว

ด้านแม่ค้าขายปลาในตลาดสดเทศบาลเมืองนครพนมระบุว่า ชาวประมงโดยเฉพาะใน ต.ท่าค้อ นำปลาที่ล่าได้หลายชนิด เช่น ปลาเนื้ออ่อน ปลายาง ปลาเผาะ ปลาหน้าหนู ปลายาง มาขายส่งให้ ตนจะนำไปวางขายอีกทอดตกกิโลกรัมละ 280-350 บาท ส่วนปลาเกล็ดราคาจะถูกลงตกกิโลกรัมละ 130-180 บาท ปลาแค้ ปลาคัง นิยมทำลวกจิ้ม ส่วนปลาโจกมีราคาสูงซึ่งเป็นที่นิยมชื่นชอบของผู้บริโภค เพราะปลาธรรมชาติช่วงนี้เนื้อจะหวานอร่อยเป็นพิเศษ ตกราคากิโลกรัมละ 270-280 บาท

ร้านอาหารและโรงแรมดังนิยมซื้อนำไปทอดกระเทียม ขณะที่ปลาโจก ซึ่งเปรียบเป็นราชินีปลาน้ำโขงมีราคาแพงกว่าปลาบึก นิยมทำต้มยำน้ำข้น ต้มเค็ม และผัดฉ่า รสชาติเอร็ดอร่อย สวนทางกับเนื้อหมูและเนื้อวัวที่บริโภคลดลงเนื่องจากมีราคาสูงขึ้นมาก



กำลังโหลดความคิดเห็น