พิษณุโลก - พ่อ แม่ พร้อมญาติพี่น้องหนุ่มพรหมพิราม หลั่งน้ำตาร้องขอความเป็นธรรม ผบช.ภ.6 หลังลูกถูกทำร้ายคางานบวชในหมู่บ้าน แถมหิ้วร่างโชกเลือดมาทิ้งหน้าบ้านกลางดึกเหมือนหมูเหมือนหมาจนเสียชีวิตมานานกว่าเดือนแต่คดีไม่คืบ วอนสั่งการตำรวจเร่งล่าคนร้าย
วันนี้ (26 พ.ค.) นายสมชาย สีหะอำไพ อายุ 87 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/1 หมู่ 3 ต.ตลุกกระเทียม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก พร้อมญาติกว่า 20 คน เดินทางมายื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังบุตรชาย คือ นายศรศักดิ์ สีหะอำไพ อายุ 45 ปี ถูกรุมทำร้ายร่างกายอาการสาหัสคางานบวชในหมู่บ้าน
คนร้ายนำร่างที่โชกเลือดไปโยนทิ้งไว้บริเวณหน้าบ้าน เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 11 เม.ย. ก่อนเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น (12 เม.ย. 59) โดยมีบาดแผลฉกรรจ์ที่คาง ลำคอ หลอดลมขาด ศีรษะแตก แพทย์จากโรงพยาบาลพุทธชินราชลงความเห็นว่าเสียชีวิตจากอาการเลือดออกในสมอง แต่เวลาผ่านมากว่า 1 เดือนแล้วคดีกลับเงียบ ไม่มีการเรียกตัวผู้ต้องสงสัย หรือไม่มีการสอบสวนพยาน หรือผู้เห็นเหตุการณ์แต่อย่างใด
ญาติๆ หวั่นเกรงว่าคนร้ายที่รุมทำร้ายร่างกายนายศรศักดิ์อาจเป็นคนมีสี หรือเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยหลายคนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพราะสิ่งที่ลูกหลานตนถูกกระทำนั้นถือว่าโหดเหี้ยมรุนแรง
นายสมชาย สีหะอำไพ พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนมีลูกทั้งหมด 12 คน คนตายเป็นคนที่ 11 เป็นคนขยันทำงาน ไม่เคยมีครอบครัวมาก่อน ไม่เคยมีปัญหากับใคร ในวันเกิดเหตุหมู่บ้านมีงานบวชพระ 3 แห่ง ครอบครัวก็แยกกันไปแต่ละงาน ผู้ตายอยู่งานที่ห่างจากบ้านไปประมาณ 500 เมตร
จนกระทั่งช่วงเวลา 23.00 น. คืนวันที่ 11 เม.ย. 59 ได้ยินเสียงสุนัขเห่าหน้าบ้าน เห็นคนนอนอยู่ตนพร้อมพี่สาวคนตายก็ออกไปดูพบร่างของนายศรศักดิ์นอนหมดสติ โดยมีบาดแผลฉกรรจ์ตามลำตัวหลายแห่ง เลือดนองพื้น จึงรีบพาส่ง รพ.พรหมพิราม แต่เนื่องจากลูกชายหมดสติแพทย์จึงส่งตัวไปที่ รพ.พุทธชินราช และได้เสียชีวิตลงด้วยอาการเลือดออกในสมองในวันที่ 12 เม.ย. 59
“หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป ตำรวจในพื้นที่ไม่มีการเรียกสอบปากคำใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่เหตุเกิดในงานบวช มีคนถูกรุมทำร้ายร่างกาย แถมยังนำร่างมาโยนทิ้งหน้าบ้านเหมือนหมูเหมือนหมา จะไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ได้อย่างไร นอกเสียจากว่ากลุ่มคนร้ายที่ลงมือเป็นคนมีสี หรือเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่”
นายสมชายเล่าต่อว่า มาวันนี้อยากร้องขอความเป็นธรรมให้ลูกชาย อยากให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 สั่งการให้ตำรวจในพื้นที่เร่งไล่ล่าหาตัวคนร้ายมารับผิด มาขอขมาวิญญาณลูกชายของตน ตนอยากจะถามนักว่าลูกตนไปทำเลวร้ายอะไรขนาดนั้นถึงต้องฆ่าแกงกันยังกับผักปลา ยังกับเขาไม่มีชีวิต ทั้งๆ ที่คนในหมู่บ้านก็รู้จักลูกชายของตนดีว่าไม่ใช่คนเกเร หรือลักเล็กขโมยน้อย ไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใคร ก็อยากจะขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวเท่านั้น
ต่อมา พ.ต.ต.สมเกียรติ มาจาก สว.ฝอ.7 บก.อก.ภ.6 เดินทางมารับเรื่องดังกล่าวเพื่อนำเรียนให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ทราบ เพื่อเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ สืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี และให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตต่อไป