พิษณุโลก - ผู้การตำรวจเมืองสองแควนำทีมเข้าพบอธิการบดี ม.ราชภัฏพิบูลสงคราม แจงยิบคดีคนอ้างเป็นตำรวจไล่ยิง-ใช้ปืนขู่ซ้อม 5 นศ.กลางเมืองจนได้รับบาดเจ็บปางตาย ย้ำให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย พร้อมสั่งเด้ง 3 ตร.ที่พัวพันเข้าภาค 6 ไว้ก่อนแล้ว เผยเรื่องนี้มี 2 คดี
วันนี้ (24 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก กว่า 30 ราย ได้รวมตัวเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ท.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผบช.ภ.6 ที่หน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 6 อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เมื่อวานนี้ (23 มี.ค.) กรณีถูกบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจซ้อมทำร้ายร่างกายเพื่อนนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 จำนวน 5 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งทางด้านร่างกาย และจิตใจ
(อ่านข่าว “งามหน้าอีก! นศ.มหา’ลัยดัง โร่ร้อง ผบช.ภ.6 โดนคนอ้างเป็น ตร.ไล่ยิง-ปืนขู่ซ้อมปางตาย” http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000030289 ประกอบ)
ล่าสุดช่วงสายที่ผ่านมา พล.ต.ต.อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก ได้เดินทางเข้าพบ ดร.สาคร สร้อยสังวาลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ที่สำนักงานอธิการบดีฯ เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจ พร้อมยืนยันขั้นตอนของการดำเนินคดีดังกล่าว
พล.ต.ต.อดิศักดิ์กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในขณะนี้ โดยเฉพาะในโลกโซเชียล ได้มีการตั้งกลุ่มปลุกระดมนักศึกษา มีการนัดหมายว่าจะเดินทางเข้ากดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โรงพักจำนวนมาก ซึ่งตนเกรงว่าอาจเกิดปัญหามวลชนได้ จึงได้เดินทางมาทำความเข้าใจกับกลุ่มนักศึกษา และทางอธิการบดีว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในระหว่างการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ โดยตนขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
พล.ต.ต.อดิศักดิ์กล่าวอีกว่า ตอนนี้ในรูปของคดี เจ้าพนักงานตำรวจได้รับเรื่องแบ่งเป็น 2 คดี คือ คดีแรกด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศ ส.ต.อ. (ที่อยู่ในคลิปวันเกิดเหตุ) ได้เข้าแจ้งความว่ารถของนักศึกษาได้เฉี่ยวชนรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน และพยายามหลบหนี ซึ่งคดีนี้แยกเป็นคดีจราจร เลขที่ 30/2559 และอีก 1 คดี คือ กลุ่มนักศึกษา ทั้ง 5 รายได้เข้าแจ้งความว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งคดีนี้เป็นคดีอาญา เลขที่ 474/2559
ตามกระบวนการขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนทั้ง 2 คดีแล้ว และในวันนี้ จะได้มีการนัดสอบปากคำของทั้งสองฝ่าย โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากทางศูนย์ดำรงธรรม และเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นตัวแทนจากมหาวิทยาลัยฯ เข้าร่วมรับฟังการสอบสวนด้วย
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นในวันนี้ได้สั่งย้ายตำรวจ 3 นาย ประกอบด้วย ยศ ร.ต.อ. 1 นาย ร.ต.ท. 1 นาย และ ส.ต.อ. 1 นาย ไปประจำตำรวจภูธรภาค 6 ก่อน เพื่อความสบายใจของน้องนักศึกษา พร้อมทั้งตั้งชุดสอบวินัย และดำเนินคดีอาญา โดย พ.ต.อ.พิเศรษฐพงศ์ ธนาบูรณศักดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก เป็นหัวหน้าชุดสอบสวน และจะมีรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการสอบสวนด้วย
“ผมรับรองว่าใครผิดก็ดำเนินไปตามความจริง อย่างไรก็ตามก็ต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย”
ด้าน ดร.สาคร สร้อยสังวาลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ได้กล่าวว่า วันนี้ต้องขอบคุณ พล.ต.ต.อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก พร้อมคณะทำงานที่ได้เข้ามาชี้แจงกรณีดังกล่าว ซึ่งทางตนก็พร้อมยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเพื่อยืนยันขั้นตอนการทำงาน และรูปแบบคดีขณะนี้ ไม่ใช่เป็นการเข้าพบเพื่อเคลียร์กับกลุ่มนักศึกษาแต่อย่างใด
ตนก็ได้พูดคุยกับกลุ่มนักศึกษาว่าให้ระงับการเดินทางเข้ากดดันตำรวจ และขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามขั้นตอนสอบสวนก่อน และวันนี้ตนก็ได้ตั้งตัวแทนของมหาวิทยาลัย คือ อ.พิมล เกษมเสาวภาคย์ รองคณบดี คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เข้าร่วมรับฟังการสืบสวนสอบสวนพร้อมกับ 5 นักศึกษาด้วย
ในวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 6 จะได้ดำเนินการตรวจสอบรถของนักศึกษาที่ถูกตำรวจยิงใส่ ก่อนที่จะลงมือทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง พร้อมทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เรียกนักศึกษาที่ได้รับบาดเจ็บมาให้ปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลกอีกครั้ง ซึ่งความคืบหน้าจะรายงานต่อไป