กาญจนบุรี - “ไอ้บอด” ช้างสีดอ ช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ติดใจรสชาติมะม่วง บุกเข้าบ้านอดีตข้าราชการครูที่ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี รอบที่ 5 มาคราวนี้ “ไอ้บอด” พังศาลานั่งเล่นเสียหายไปอีก 1 หลัง ขณะที่เจ้าของบ้านบอกจะยังไม่ซ่อมแซมศาลาที่เสียหาย เพราะมั่นใจ “ไอ้บอด” จะต้องกลับมาเยี่ยมอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 พ.ค.) เมื่อเวลา 03.00 น. ช้างป่าเพศผู้ หรือช้างสีดอ ลักษณะหูแหว่ง ตาบอดด้านขวา อายุกว่า 40 ปี ที่อาศัยอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ได้พังรั้วเข้าไปภายในบริเวณโดยรอบของบ้านเลขที่ 139/1 หมู่ 2 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ของ นางจินตนา จันทะเกษ อายุ 62 ปี อดีตข้าราชการครูที่เกษียณไปแล้ว
ช้างตัวดังกล่าวได้ใช้งวงโน้มกิ่งมะม่วงขนาดใหญ่ แล้วกระชากจนหักลงมา และกินลูกมะม่วงที่ร่วงหล่นลงมากองอยู่กับพื้นอย่างเอร็ดอร่อย รวมต้นมะม่วงหักโค่น จำนวน 5 ต้น นอกจากนี้ ยังได้ใช้งวงทำลายศาลานั่งเล่นที่สร้างเอาไว้ใกล้กับต้นมะม่วง จนหลังคาที่มุงด้วยกระเบื้องเสียหายไปอีก 1 หลัง โดย นางจินตนา จันทะเกษ และสามีได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปวิดีโอ รวมทั้งภาพนิ่งเอาไว้ด้วย
สำหรับช้างป่าตัวดังกล่าว ชาวบ้านในพื้นที่เรียกมันว่า ไอ้หูแหว่ง หรือไอ้บอด การเข้ามาของช้างครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารชุดประสานงานประจำพื้นที่ ร.29 นำโดย ร.ต.สาธิต ชมภู หน.ชป.พท.ร.29 มาให้ความช่วยเหลือในการไล่ต้อนช้างป่าตัวดังกล่าวด้วยการใช้หนังสติ๊กยิงใส่ และร้องตะโกนขับไล่ จนกระทั่งเวลา 06.00 น. ช้างจึงเดินกลับคืนสู่ผืนป่าดังเดิม
นางจินตนา จันทะเกษ เจ้าของบ้านเปิดเผยว่า ขณะที่ตนกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่กับสามี ก็ได้ยินเสียงกิ่งต้นไม้ที่อยู่ภายในบ้านหักโค่น ซึ่งเมื่อได้ยินเสียงดังกล่าวก็รู้ได้ทันทีว่า ช้างป่ากำลังโน้มกิ่งมะม่วงลงมากิน จึงตื่นขึ้นมาแล้วรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาให้ความช่วยเหลือ
สำหรับบ้านพักของตนปลูกบนเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่เศษ ภายในบริเวณบ้านตนได้ปลูกต้นมะม่วงเอาไว้กว่า 10 ต้น ซึ่งช้างป่าตัวดังกล่าวได้เดินชนรั้วบ้านที่ทำด้วยอิฐบล็อก และลวดหนามเข้ามาทางด้านหลังบ้าน จนรั้วพังเสียหายหลายจุด
สำหรับการซ่อมแซมศาลา และกระเบื้องมุงหลังคาบ้านที่แตกเสียหายคงต้องชะลอการซ่อมเอาไว้ก่อน เพราะเชื่อว่า ช้างป่าตัวดังกล่าวคงจะเข้ามาอีกอย่างแน่นอน และหากซ่อมในช่วงนี้ก็คงจะถูกช้างทำลายเสียหาย จึงจำเป็นต้องรอให้เข้าสู่ฤดูฝนเสียก่อน คาดว่าหากมีฝนตกลงมาภายใน 1 เดือนนี้ ช้างก็คงจะไม่กลับลงมาอีก
ด้าน นายเสรี คงอยู่ นายอำเภอศรีสวัสดิ์ กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้วที่ช้างป่าตัวดังกล่าวได้เข้ามาทำลายทรัพย์สินของ นางจินตา อดีตข้าราชครู ทุกครั้งที่ช้างเข้ามาตนได้สั่งการให้ชุด ชรบ. กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เข้าให้ความช่วยเหลือ และในครั้งนี้ตนได้รายงานให้ นายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ทราบเรื่องแล้ว และจะหาทางช่วยเหลือด้วยการหาวัสดุมาซ่อมแซมจุดที่เสียหาย โดยจะประสานทหารช่างมาทำการซ่อมแซมให้
นอกจากนี้ ยังมีการเสนอว่า ควรหาทางนำช้างตัวนี้ไปอยู่ในศูนย์ดูแลช้าง เนื่องจากช้างพิการ หูแหว่ง ตาบอด อีกทั้งอายุมาก หากปล่อยไว้เช่นนี้ก็จะเข้ามาในเขตชุมชนอีก เกรงว่าสักวันหนึ่งช้างป่าตัวดังกล่าวอาจจะเกิดคลุ้มคลั่งทำร้ายชาวบ้าน หรือไม่ชาวบ้านอาจจะเกิดความโมโห ทำอันตรายช้างจนถึงชีวิตได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อการอนุรักษ์ช้างไทย ซึ่งเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองก็เป็นได้
