จันทบุรี - องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ร่วมกับอำเภอแก่งหางแมว จัดโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรระบบนิเวศ และสัตว์ป่าเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน พร้อมนำช้างบ้านจากศูนย์คชบาลช้างจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาอยู่ร่วมกับชาวบ้าน เพื่อให้ชาวบ้านได้ตระหนัก และสามารถอยู่ร่วมกับช้างป่าในพื้นที่ได้
วันนี้ (11 พ.ค.) นายธนภณ กิจกาญจน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรระบบนิเวศและสัตว์ป่าเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน โดยมี นายฐิติเทพ บุณยรัตพันธุ์ นายอำเภอแก่งหางแมว นายเดช จินโนรส นายกองค์การบริหารส่วนตำบลขุ่นซ่อง พร้อมด้วยผู้นำชุมชน ควาญช้างจากศูนย์คชบาลช้างจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ อส. และผู้เข้ารับการอบรมร่วมในพิธี
สำหรับการจัดโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรระบบนิเวศและสัตว์ป่าเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์นี้ทำให้เกิดปัญหาช้างป่าที่อาศัยอยู่ในป่ารอยต่อ 5 จังหวัดแห่งนี้เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว จนมีจำนวนช้างป่าในปัจจุบันประมาณ 350 ตัว ในส่วนเฉพาะที่อยู่ในพื้นที่อำเภอแก่งหางแมว มีช้างป่าประมาณ 100 ตัว และนับวันจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดปัญหาช้างป่าลงมาทำร้ายราษฎรจนถึงแก่ชีวิต และทำความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตร
สร้างความหวาดกลัวให้แก่ราษฎรจนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ ส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนต่อชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร และสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม ดังนั้น เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรระบบนิเวศให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ และหาแนวทางการแก้ไขปัญหาสัตว์ป่าเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน ดังนั้น ในวันนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี จึงร่วมกับ อำเภอแก่งหางแมว จัดทำโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรระบบนิเวศและสัตว์ป่าเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน โดยการจัดอบรมประชาชนในพื้นที่อำเภอแก่งหางแมว จำนวน 3 รุ่นๆ ละ 220 คน รวมทั้งสิ้น 660 คน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีความรู้ ความเข้าใจในการอนุรักษ์ทรัพยากร และรักษาระบบนิเวศของป่าไม้ และการอยู่ร่วมกันของสัตว์ป่ากับประชาชนในพื้นที่อำเภอแก่งหางแมว นอกจากนี้ ได้มีการนำช้างบ้าน จำนวน 4 เชือก จากศูนย์คชบาลช้างจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาสร้างองค์ความรู้ให้แก่ชาวบ้านที่เข้ารับการฝึกอบรมได้รู้ถึงนิสัยของช้าง รู้ถึงการอยู่ร่วมกับช้าง และรู้ถึงการหลบเหลี่ยงเมื่อเจอช้างป่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นแนวทางที่จะทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอแก่งหางแมว สามารถที่จะอยู่ร่วมกับช้างป่าได้อย่างปลอดภัย และสามารถถ้อยทีถ้อยอาศัยกันอีกด้วย
นายธนภณ กล่าวว่า การที่ได้นำช้างบ้าน จำนวน 4 เชือก จากปางช้างจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาสร้างองค์ความรู้ให้แก่ชาวบ้านในครั้งนี้ เพื่อให้ช้างป่าสามารถอยู่ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่อำเภอแก่งหางแมว อย่างมีความสุข ไม่ทำร้ายซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้น จะเป็นปัจจัยสำคัญที่มูลนิธิคชบาลที่ได้นำช้างมาก็เพื่อเป็นการสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอแก่งหางแมว ได้รับรู้ และเข้าใจนิสัยของช้างป่า และการหลบเหลี่ยง การป้องกันตัวเมื่อเจอช้างป่าจะต้องทำตัวอย่างไร และการอยู่ร่วมกันต่อไป
นายฐิติเทพ บุณยรัตพันธุ์ นายอำเภอแก่งหางแมว กล่าวว่า จากเหตุผลที่อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี อยู่ในเขตป่า 95 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ชาวบ้านอยู่ในพื้นที่ป่า ทำให้ปัญหาช้างป่าได้รุกเข้ามาในที่อยู่อาศัยของประชาชน และไม่ใช่เข้ามาเพียงตัวเดียว ซึ่งมาทั้งโขลง 80-120 ตัว และทุกคืนก็จะออกหากินตามปกติ ที่นี้การที่ช้างป่าได้ออกมาหากินก็ได้เข้ามาในพื้นที่ของชาวบ้าน มีการทำลายข้าวของ และทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต
ดังนั้น จึงทำให้ทางอำเภอแก่งหางแมว จึงได้มีโครงการนี้ขึ้นเพื่อจัดฝึกอบรมให้ชาวบ้านในพื้นที่ ได้มีความรู้ ความเข้าใจ จากวิทยากร จากควาญช้าง และสัมผัสช้างโดยของจริง เพื่อให้ชาวบ้านได้เกิดความตระหนักในการรักช้าง เข้าใจนิสัยของช้าง รวมทั้งการเรียนรู้การหลบเหลี่ยง การป้องกันตัวเมื่อเจอช้างป่าจะต้องทำตัวอย่างไร และการอยู่ร่วมกับช้างป่าได้ต่อไป