นครพนม - พุทธศาสนิกชนชาวไทย-ลาวร่วมพิธีโบราณกวนข้าวทิพย์บูชาพระธาตุพนม เนื่องในวันวิสาขบูชา
วันนี้ (20 พ.ค.) ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พระครูพนมปรีชากร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย นายอติชาต อุณหเลขกะ นายอำเภอธาตุพนม นำพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวลาว ประกอบพิธี แห่เครื่องกวนข้าวทิพย์จากหน้าวัดพระธาตุพนมเข้ามาเวียนรอบองค์พระธาตุพนม ก่อนประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถา ในศาลาตรีมุขกาญจนาภิเษก เพื่อทำพิธีกวนข้าวทิพย์
โดยพระครูพนมปรีชากร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เป็นประธานเจิมอุปกรณ์กวนข้าวทิพย์และนำเครื่องส่วนประกอบลงกระทะนำฤกษ์ก่อนประกอบพิธี
ซึ่งในขั้นตอนการกวนข้าวทิพย์นั้นตามประเพณีความเชื่อจะใช้หญิงพรหมจรรย์เป็นผู้กวนข้าวทิพย์ ในขณะที่พระสงฆ์สวดพุทธาภิเษกจนเสร็จพิธี ถือเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์โบราณที่สืบทอดกันมาแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นการบูชาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และองค์พระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ภายในบรรจุพระอุรังคธาตุ กระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า
สำหรับข้าวทิพย์ หรือข้าวมธุปายาสนั้น ตามประวัติในพุทธกาลถือเป็นข้าวที่หุงด้วยน้ำนมโค ซึ่งนางสุชาดาได้นำไปถวายพระพุทธเจ้าโดยสำคัญว่าเป็นรุกขเทวดาประทับใต้ต้นไทร ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชราในพุทธกาล ณ เมืองพาราณสี พระพุทธเจ้าทรงปั้นข้าวมธุปายาสเป็นปั้นๆ 49 ปั้นเสวยจนหมด แล้วทรงนำถาดไปยังแม่น้ำเนรัญชรา ทรงวางถาดลงบนกระแสน้ำ ตั้งอธิษฐานว่าถ้าจะได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ขอให้ถาดลอยทวนกระแสน้ำ
ปรากฏว่าถาดได้ลอยทวนกระแสน้ำ และได้จมลงสู่นาคพิภพ ต่อมาพระองค์ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม เมื่อพระชนมายุได้ 35 พรรษา และถือเป็นวันที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง เพราะวันนี้ได้มีเหตุการณ์ทั้ง 3 คือ ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน เกิดขึ้นในวันเพ็ญเดือน 6 หรือวันวิสาขบูชา
ดังนั้นเมื่อถึงวันสำคัญชาวพุทธทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิตได้พร้อมใจกันประกอบพิธีกวนข้าวทิพย์บูชาพระพุทธองค์ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ พระปัญญาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณของพระองค์ท่านผู้เป็นดวงประทีปของโลก
เช่นเดียวกับวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ได้กำหนดจัดขึ้นทุกปีในวันวิสาขบูชา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธเจ้า ซึ่งเมื่อหลังเสร็จพิธีได้นำเข้าทิพย์ หรือข้าวมธุปายาสมาแจกจ่ายให้ประชาชนไปรับประทานเพื่อเป็นสิริมงคลด้วย