บุรีรัมย์ - แล้งกระทบพืชผักหลายชนิดที่บุรีรัมย์ราคาพุ่งสูงขึ้นเกือบเท่าตัว โดยเฉพาะพริกขี้หนูแพงขึ้นเป็นประวัติการณ์ถึง กก.ละ 160 บาท พ่อค้าแม่ค้าโอดต้องลดปริมาณสั่งซื้อหวั่นขาดทุน ขณะบางรายไม่กล้ารับมาขายต้องหาพืชผักพื้นบ้านที่มีราคาถูกมาขายแทน
วันนี้ (18 พ.ค.) จากสถานการณ์ภัยแล้งที่ขยายวงกว้างในหลายพื้นที่ของจังหวัดบุรีรัมย์ แหล่งน้ำตามธรรมชาติแห้งขอด ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงนี้ ทำให้บางพื้นที่ไม่สามารถเพาะปลูกพืชผักได้ และบางพื้นที่ขาดน้ำเหี่ยวเฉาแห้งตายเสียหาย
จากผลพวงดังกล่าวได้ส่งผลกระทบทำให้ราคาพืชผักหลายชนิดตามท้องตลาด ทั้งในตลาดสดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ตลาดสดไนท์บาซาร์ มีราคาแพงขึ้นเกือบทุกชนิด เช่น ต้นหอม จากปกติกิโลกรัมละ 89 บาท ปรับเพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 130 บาท แตงกวาเดิมกิโลกรัมละ 10 บาท ปรับเป็นกิโลกรัมละ 30 บาท
แต่ที่ปรับราคาขึ้นแพงมากที่สุดและแพงเป็นประวัติการณ์ คือพริกขี้หนูทั้งเขียวและแดง มีราคาพุ่งสูงถึงกิโลกรัมละ 160 บาท จากปีที่ผ่านมามีราคากิโลกรัมละ 110 บาท ทำให้ส่งผลกระทบทั้งต่อบรรดาพ่อค้าแม่ค้า และผู้บริโภค โดยเฉพาะแม่ค้าขายผักในตลาดสดเทศบาลต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าช่วงนี้ผักหลายชนิดมีราคาแพงขึ้น โดยเฉพาะพริกขี้หนูแพงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายปี คาดว่าผลพวงน่าจะมาจากปัญหาภัยแล้งทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง
จนพ่อค้าแม่ค้าหลายรายต้องลดปริมาณการสั่งซื้อ ขณะที่บางรายไม่กล้ารับมาขายเพราะเกรงจะขาดทุน จึงหาพืชผักพื้นบ้าน เช่น กระถิน ผักบุ้ง ตำลึง ชะอม จากชาวบ้านที่สามารถปลูกเองได้และมีราคาถูกกว่ามาวางแทนในช่วงนี้
นางน้อย วิโสรัมย์ อายุ 42 ปี แม่ค้าขายผักในตลาดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ บอกว่า ตั้งแต่ขายผักมาเกือบ 10 ปีแล้วยังไม่เคยเห็นพริกขี้หนูแพงถึงกิโลกรัมละ 160 บาท ซึ่งปีนี้ถือว่าแพงเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ คาดว่าน่าจะเกิดจากปัญหาภัยแล้งทำให้เกษตรกรในพื้นที่ไม่สามารถเพาะปลูกพืชผักได้ จึงต้องรับซื้อพืชผักจากต่างจังหวัดมาขายทำให้ราคาแพงเกือบเท่าตัว และคาดว่าราคาจะแพงไปอีกสักระยะ หรือจนกว่าจะมีฝนตกสามารถเพาะปลูกพืชผักได้