หนองคาย - เจ้าหน้าที่ชลประทานรื้อถอนเครื่องสูบน้ำออกจากสถานีสูบน้ำชั่วคราวทั้ง 2 จุดของอำเภอโพนพิสัย หลังครบกำหนดโครงการสูบน้ำโขงเข้าลำห้วยหลวงเพื่อเกษตรยังชีพ ได้น้ำตามเป้าหมาย ทั้งด้านเกษตร ผลิตประปา และส่งน้ำเพาะปลูก 13,000 ไร่
หลังจากที่กรมชลประทานได้ติดตั้งสถานีสูบน้ำชั่วคราว 2 แห่ง แห่งแรกที่เหนือสะพานห้วยหลวงอนุสรณ์ บ้านดอนคง ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย และแห่งที่สองบริเวณประตูระบายน้ำห้วยหลวง บ้านจุมพล ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย ตามโครงการบรรเทาภัยแล้ง ปี 2559 ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ จ.หนองคาย และ จ.อุดรธานี
ตามนโยบายของรัฐบาลเมื่อเดือนมีนาคม 2559 ที่ผ่านมา กำหนดระยะเวลาดำเนินการ 60 วัน เริ่มเดินเครื่องสูบน้ำโขงเข้าลำห้วยหลวงวันแรกเมื่อ 15 มี.ค. 59 และยุติการสูบน้ำเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2559 รวมระยะเวลา 57 วัน
ทั้งนี้ เนื่องจากประเมินสถานการณ์วิเคราะห์ระดับน้ำแล้วเพียงพอต่อการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ จึงได้ยุติโครงการและทำการรื้อถอนเครื่องมือเครื่องจักร เครื่องสูบน้ำขนาด 3 ลูกบาศก์เมตร 8 เครื่อง อุปกรณ์ท่อทั้งหมดออกจากสถานีสูบน้ำชั่วคราวทั้งสองแห่ง นำกลับไปยังกรมชลประทานตามเดิม
นายเสถียร แพงมา หัวหน้าฝ่ายก่อสร้าง 1 สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 3 สำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ กล่าวว่า ในการดำเนินโครงการที่ผ่านมา การสูบน้ำโขงเข้าลำห้วยหลวงเพื่อการอุปโภคบริโภคและเกษตรยังชีพ ประชาชนในพื้นที่พึงพอใจกับการดำเนินการมากกว่าร้อยละ 90 เพราะทำให้มีน้ำเพียงพอในการทำเกษตร ปลูกข้าวนาปรัง เพิ่มน้ำต้นทุนได้ 18.97 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถมีน้ำไว้ผลิตประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคตลอดฤดูแล้ง
นอกจากนี้ยังส่งน้ำในพื้นที่เพาะปลูกได้ 13,677 ไร่ ประชาชน 7 หมู่บ้าน 3 ตำบล 1,633 ครัวเรือนของอำเภอโพนพิสัย จ.หนองคาย และ อ.สร้างคอม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ได้รับประโยชน์เต็มที่จากโครงการดังกล่าว