เกษตรกรเฮ! หนองคายเริ่มเดินเครื่องผันน้ำโขงเข้าลำน้ำห้วยหลวง

หนองคาย-ชลประทานเริ่มเดินเครื่องผันน้ำโขงจากหนองคาย เข้าลำน้ำห้วยหลวง ส่งน้ำช่วยเกษตรกรเพื่อการเกษตรในหนองคายและอุดรธานีแล้ว ระยะแรกเดินเครื่อง 12 ชั่วโมง ก่อนประเมินสถานการณ์เพิ่มเป็น 18 ชั่วโมง 15 มี.ค.- 15 พ.ค.นี้

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (15 มี.ค.) ที่สถานีสูบน้ำชั่วคราว แห่งที่ 1 บ้านดอนคง ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ได้ทำการเดินเครื่องสูบน้ำจำนวน 4 เครื่อง ทำการผันน้ำโขงเพื่อการอุปโภคบริโภคและยังชีพ เข้ามายังลำห้วยหลวง โดยได้เปิดประตูห้วยหลวงรองรับน้ำ

นายเสถียร แพงมา หัวหน้าฝ่ายก่อสร้าง 1 สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 3 สำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่จะทำการเดินเครื่องสูบน้ำผันน้ำโขงเพื่อการอุปโภคบริโภคและยังชีพ หลังจากที่มีการทดสอบเดินเครื่องมาแล้วหลายครั้ง

ทั้งนี้ พบว่า ตลอดเส้นทางน้ำจากน้ำโขงเข้าลำห้วยหลวง ไปยังพื้นที่ปลายทางที่ จ.อุดรธานี ระยะทางรวม 80 กิโลเมตร ระยะแรกจะทำการสูบน้ำตั้งแต่เวลา 06.00 - 18.00 น. รวม 12 ชั่วโมง ปริมาตรน้ำ 518,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน

ทำให้สามารถค่อย ๆ เพิ่มระดับน้ำในลำห้วยหลวงได้เฉลี่ย 2 - 3 เซนติเมตร เส้นทางน้ำจะไหลจาก อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ไปยัง อ.สร้างคอม และ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ทำให้เพิ่มน้ำต้นทุนเพื่อการเกษตรให้ชาวนาทำนาปรังได้พื้นที่ 13,000 ไร่

ตลอดลำน้ำเป็นทางโล่งไม่มีสิ่งกีดขวางทางน้ำ หลังจากนั้น หากไม่มีอุปสรรคในการเดินทางของน้ำจะเพิ่มระยะเวลาสูบน้ำเป็น 18 ชั่วโมง หรือช่วงเวลาหกโมงเช้าถึงหกทุ่ม

สำหรับตลอดเส้นทางที่น้ำไหลผ่าน จะมีสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำ 10 สถานี และเครื่องสูบน้ำนอกเขตชลประทาน 3 เครื่อง เกษตรกรจะนำเครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก หรือ หางพญานาค ทำการสูบน้ำจากคลองส่งน้ำเหล่านี้เข้าพื้นที่การเกษตร

แผนการผันน้ำโขงเข้าลำห้วยหลวงเพื่อการอุปโภคบริโภคและยังชีพ จะดำเนินการระหว่างวันที่ 15 มี.ค.- 15 พ.ค. 2559 ก่อนจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนรอบใหม่ คาดว่า จะช่วยให้เกษตรกรมีน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตรไปจนกว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิต