กาฬสินธุ์ - ผบก.จว.กาฬสินธุ์ เผยคดีคืบหน้า มั่นใจออกหมายจับทีมยกชุด หลังส่งมือปราบควานหานางนกต่อ และเสี่ย อ. นายหน้าขาใหญ่ย่านห้วยขวาง ที่ยังเก็บตัวเงียบ พร้อมเชิญตัวลูกพี่ลูกน้องผู้ตายให้ปากคำเพิ่มเติมในสัปดาห์หน้า
จากกรณีพบศพนายภาสพล รัตนตยาธิคุณ หรือ “เสี่ยพล” อายุ 48 ปี นักธุรกิจหนุ่มนักเรียนนอก ถูกยิงเสียชีวิตริมถนนสายสมเด็จ-ผาเสวย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่ง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลุยสางคดี และกำชับให้ตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ เร่งคลี่คลายคดี จนพบเบาะแสจากกล้องวงจรปิด เตรียมที่จะสรุปสาเหตุและตัดประเด็นสำคัญ เชื่อว่าชนวนการสังหารเกิดจากหักผลประโยชน์จากการซื้อขายที่ดิน และมีเสี่ย อ. และนางนกต่อ ร่วมทีมอุ้มฆ่าตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (12 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สหกรณ์ตำรวจจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ (ผบก.จว.กาฬสินธุ์) นำคณะนายตำรวจร่วมกันทำบุญที่สหกรณ์ตำรวจจังหวัด เพื่อเป็นสิริมงคลในการดำเนินกิจการ ภายหลังจากทำบุญ พล.ต.ต.อภิชิตได้เรียก พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง, พ.ต.อ.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งดูแลคดีเข้าสอบถามความคืบหน้า โดยมีสีหน้าเคร่งเครียด เนื่องจากตำรวจมือปราบที่ส่งไปติดตามตัวนางนกต่อ และเสี่ย อ. นายหน้าขาใหญ่ย่านห้วยขวาง ยังไม่สามารถหาตัวพบ แต่สามารถเก็บหลักฐานได้หลายชิ้น
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์กล่าวว่า หลักฐานที่เป็นหลักฐานจากกล้องวงจรปิดหลายจุด ทำให้ทราบว่าก่อนที่นายภาสพลจะถูกอุ้มฆ่ามีกลุ่มบุคคลร่วมกันลงมือประมาณ 5-6 คน เป็นภาพที่มีผู้ตายอยู่ด้วยแต่ไม่สามารถที่จะนำมาเปิดเผยได้ ยอมรับว่ามีเสี่ย อ. และนางนกต่อ อยู่ในภาพหลายจุด ทำให้เกิดการเชื่อมโยงประเด็นชัดแจ้งมากขึ้น
“กุญแจสำคัญขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานในการเอาผิด เพราะขณะนี้แม้จะพอรู้ว่ามีผู้ใดพัวพันแล้ว แต่สิ่งที่ชุดสืบสวนต้องการคือความชัดเจน เชื่อว่ายังมีกลุ่มบุคคลที่เหนือขึ้นไป นั่นคือกลุ่มจ้างวาน ต่อมาเป็นกลุ่มอุ้ม และกลุ่มนำออกมาฆาตกรรม ซึ่งกลุ่มฆาตกรเป็นกลุ่มพลเรือนทั้งหมดไม่ใช่กลุ่มมีสีแน่นอน โดยในวันพรุ่งนี้ พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา และพล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จะเข้ามาตรวจสอบสำนวนสืบสวนสอบสวนเพื่อพิจารณาออกหมายจับต่อไป” พล.ต.ต.อภิชิตกล่าว
ด้านแหล่งข่าววงในกล่าวว่า ถึงแม้คดีนี้จะมีความซับซ้อน แต่ตอนนี้ตำรวจรู้ตัวกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันอุ้มฆ่า นายภาสพลแล้ว เพียงแต่รอพยานหลักฐาน โดยเฉพาะการติดตามตัวผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี ซึ่งการแกะรอยเป็นส่วนสำคัญเพื่อออกหมายจับ และผู้ต้องหาไม่ใช้คนมีสีแต่อาจจะเป็นซุ้มมือปืนหรือทีมสังหารในเขตปริมณฑล
ขณะนี้ตำรวจมือปราบยังได้กลุ่มบุคคลที่จะสามารถเชื่อมโยงไปถึงตัวผู้บงการที่แท้จริงด้วย และในสัปดาห์หน้าลูกพี่ลูกน้องของผู้ตายก็จะเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนอีกด้วย