ข่าวมั่ว! ผู้การฯ เมืองน้ำดำปัดออกหมายจับแก๊งอุ้ม “เสี่ยตุ้ม”

กาฬสินธุ์ - ผู้บังคับการตำรวจภูธรกาฬสินธุ์ ปัดศาลออกหมายจับตัวบุคคล 3 ใน 5 แก๊ง อุ้มฆ่า “เสี่ยตุ้ม” แจงตำรวจยังหาหลักฐานมัดคนร้ายเพิ่ม ขณะที่แหล่งข่าวระบุตำรวจคว้าน้ำเหลว เหตุข่าวลือออกหมายจับสั่งถอนกำลังกลับเมืองน้ำดำ

จากกรณีพบศพนายภาสพล รัตนตยาธิคุณ หรือ “เสี่ยพล” หรือตุ้ม อายุ 48 ปี นักธุรกิจหนุ่มและนักเรียนนอก ถูกยิงเสียชีวิตริมถนนสายสมเด็จ-ผาเสวย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่ง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลุยสางคดีและกำชับให้ตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ เร่งคลี่คลายคดี จนพบเบาะแสจากกล้องวงจรปิด และเตรียมที่จะสรุปสาเหตุและตัดประเด็นสำคัญ โดยเชื่อว่าชนวนการสังหารเกิดจากหักผลประโยชน์จากการซื้อขายที่ดินเป็นฝีมือบุคคลใกล้ชิดตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

สำหรับความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (18 พ.ค.) พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีอุ้มฆ่านายภาสพล รัตนตยาธิคุณ หรือเสี่ยตุ้ม ว่าด้วยปัญหาความซับซ้อนที่ไปเกี่ยวพันกับ เสี่ย อ. นายหน้าขาใหญ่ย่านห้วยขวาง แถมยังมีกลุ่มบุคคลใกล้ชิดเข้ามาพัวพัน แต่จากการสืบสวนทางคดี ตำรวจได้เตรียมที่จะออกหมายจับซึ่งได้ยืนยันว่าไม่เกินวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ แต่ล่าสุดกลับมีข่าวว่าพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีได้ออกหมายจับคนร้ายแล้วถึง 3 คนและเหลืออีก 2 คน ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ไม่อนุมัติหมายจับนั้น

พล.ต.ต.อภิชิตกล่าวว่า ในเรื่องของหมายจับตัวบุคคลไม่ขอพูดถึง เนื่องจากการจะจับคนร้ายที่ตำรวจกำลังติดตามตัวหากพูดออกไปคนร้ายก็คงจะหลบหนีไปก่อน แต่ยอมรับว่าหมายจับมีจริงแต่เป็นการออกหมายจับตามภาพสเกตซ์ตำหนิรูปพรรณของคนร้ายเท่านั้น

สำหรับในเรื่องแนวทางการสืบสวนนั้น ขณะนี้ตำรวจชุดสืบสวนยังคงเร่งติดตามหาข่าวกลุ่มคนร้ายที่มีความเชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่อง ในกลุ่มบุคคลเป้าหมายมีไม่ต่ำกว่า 7 คน ถือเป็นกลุ่มพลเรือนทั้งหมดจึงต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามสืบสวนก่อน

“ในวันพรุ่งนี้จะมีพยานปากสำคัญเข้ามาให้การเพิ่มเติมถึง 3 คน ขณะนี้เฉพาะสำนวนการสอบสวนมีการสอบพยานทั้งที่เดินทางเข้ามาพื้นที่กาฬสินธุ์ และพยานที่อยู่กรุงเทพฯ แล้วมากกว่า 30 ปากที่กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อหาความเชื่อมโยงเพื่อทำการจับกุมต่อไป” พล.ต.ต.อภิชิตกล่าวในที่สุด

ด้านแหล่งข่าวเปิดเผยว่า กำลังตำรวจที่ลงพื้นที่นำโดย พ.ต.อ.เสกสรร อินทรสิทธิ์ ผกก.สืบสวน.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เป็นหัวหน้าทีมในการติดตามสืบสวน ที่ยังคงพยามหาความเชื่อมโยงและที่ผ่านมาถือว่าได้รับความร่วมมือจากแหล่งข่าวและพยานเป็นอย่างดี แต่หลังจากที่มีข่าวว่าพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีออกหมายจับคนร้ายแล้ว 3 คน ทำให้แหล่งข่าวที่เคยติดต่อกันได้ปิดโทรศัพท์ เพราะคงจะเกรงว่าการเข้ามาเป็นพยานในคดีนี้จะไม่ได้รับความปลอดภัย

“ก็ไม่รู้ว่าเกิดข่าวรั่วได้อย่างไร เพราะถึงแม้จะเป็นเพียงหมายจับตามภาพสเกตช์ ก็ไม่น่าจะรั่วออกไปเพราะทำให้แหล่งข่าวหลายคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องปิดปากสนิทไม่ยอมพูดคุย บางคนก็ปิดมือถือกรณีดังกล่าวคงจะต้องมีการตรวจสอบว่าในกลุ่มสายสืบด้วยกันที่เข้าถึงชั้นข้อมูลใครเป็นคนเอาข้อมูลไปกระจาย เพราะถือว่าทำให้คนร้ายไหวตัวและหลบหนีไป และคาดว่าหากติดต่อใครไม่ได้ก็คงต้องเดินทางกลับกาฬสินธุ์ เพื่อเริ่มต้นกันใหม่” แหล่งข่าวกล่าว