พระนครศรีอยุธยา - นักท่องเที่ยวแหม่มสาวเดินทางไปเที่ยวที่กรุงเก่า ถูกคนร้ายชิงทรัพย์ฮึดสู้ถูกทำร้ายร่างกายชกจนดั้งหัก ตามร่างกายได้รับบาดเจ็บ ตำรวจเร่งล่าตัว
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (11 พ.ค.) ร.ต.อ.เปล่ง พานแก้ว รอง สว.สอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถูกคนร้ายพยายามจะชิงทรัพย์ และทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ภายในสวนสาธารณะบึงพระราม ติดกับโบราสถานวัดพระราม จึงประสาน พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (อยุธยา) พร้อมด้วยสมาคมอยุธยารวมใจ ไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยว
พบ Miss Hartwigh Friede อายุ 20 ปี ชาวเยอรมัน ยืนรอพบเจ้าหน้าที่อยู่ด้วยอาการตกใจ ที่จมูกมีเลือดไหล เสื้อผ้าเปื้อนเลือด ที่ข้อมือซ้ายคล้ายถูกของมีคมบาดยาวประมาณ 4 ซม. เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา หลังทำการรักษา พบว่า ดั้งจมูกหัก บาดแผลที่แขนเย็บ 1 เข็ม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนักท่องเที่ยวมาชี้ที่เกิดเหตุ และสอบสวน
พ.ต.ท.อาริศ กล่าวว่า จากการสอบถามนักท่องเที่ยวทราบว่า มาเที่ยวที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เดินเท้าจากศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยว ชมโบราณสถานวัดพระราม แล้วเดินเข้ามาในบึงพะราม ระหว่างนั้นมีรถจักรยานยนต์แบบหญิง สีน้ำเงิน มีชายรูปร่างท้วม อายุประมาณ 20 ปี ขับขี่ตามมา จนถึงบริเวณที่เกิดเหตุคนร้ายพยายามขอเงิน และชักชวนให้ขึ้นรถจักรยานยนต์ แต่ผู้เสียหายไม่ยอมขึ้น คนร้ายจึงกระชากกระเป๋าที่ถืออยู่จนล้ม จากนั้นฉุดกระชากกันแล้วคนร้ายได้ลงมาชกที่บริเวณใบหน้า จังหวะนั้นมีคนผ่านมาพอดี คนร้ายจึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วนบาดแผลที่แขนนักท่องเที่ยวไม่ยืนยันว่าคนร้ายมีอาวุธหรือไม่ อาจเกิดขึ้นตอนระหว่างล้ม หรือฉุกกระชากกันอยู่
สอบสวน นายณัฐวุมิ ศรีจันทร์ อายุ 19 ปี นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ตนเองเลิกเรียนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในบึงพระราม พร้อมกับเพื่อน พอมาถึงใกล้กับจุดเกิดเหตุเห็นนักท่องเที่ยวล้มอยู่ จึงรีบขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามา คนร้ายเห็นตนเองจึงได้รีบขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปอีกทาง
ต่อมา พ.ต.อ.ภูมิสิทธิ์ นาวัง ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สายตรวจจักรยานได้กระจายกำลังกันตรวจหาคนร้ายทั่วบริเวณ และตามเส้นทางต่างๆ แต่ยังไม่พบตัวคนร้าย ซึ่งได้จัดชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี และสอบสวนพยานที่พบเห็นรถของคนร้ายเพื่อเร่งจับตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด
