หนุ่มอยุธยากระโดดแม่น้ำป่าสักหนีตำรวจคดียาบ้า พบอีกวันโผล่เป็นศพ

พระนครศรีอยุธยา - หนุ่มใหญ่เมืองกรุงเก่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าช้าง ล่อซื้อยาบ้า แต่ไหวตัวทันวิ่งหนีการจับกุมกระโดดลงแม่น้ำป่าสักหลังบ้าน พบอีกวันโผล่เป็นศพ

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (22 ม.ค.) ร.ต.อ.วรรณชัย การสมเพียร พนักงานสอบสวน สภ.ท่าช้าง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีผู้พบศพคนจมน้ำลอยติดท่าหน้าวัดน้อย ม.4 ต.ท่าช้าง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ในสภาพไม่ได้สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงขาสามส่วน ไม่มีร่องรอยบาดแผลในการถูกทำร้ายแต่อย่างใด จึงไปตรวจสอบ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยอยุธยา

ต่อมา พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.พิสิฐ ปักเคระกา หัวหน้าสถานี สภ.ท่าช้าง เดินทางมายังที่เกิดเหตุ เนื่องจากทราบว่าผู้ตายคือ นายชาญชัย รอดกงลาด อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 296/1 ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี คือ ผู้ต้องหาที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าช้าง ได้ทำการล่อซื้อยาบ้า จำนวน 10 เม็ด จากนายชาญชัย ผู้ตาย เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.วันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการล่อซื้อยาจาก นายชาญชัย ที่บริเวณหน้าบ้านเช่าของ นายชาญชัย ในหมู่ 4 ต.ท่าช้าง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา นายชาญชัย ไหวตัวทันรู้ว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจล่อซื้อยาจึงวิ่งหนีเข้าไปภายในบ้านพัก

แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนวิ่งไล่ตามไป ทำให้ นายชาญชัย ตัดสินใจกระโดดลงแม่น้ำป่าสักที่อยู่ติดกับหลังบ้าน และดำหายลงไป ขณะนั้นมืดมากจึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมองไม่เห็นนายชาญชัย จึงยุติการติดตามตัว จนกระทั่งมีคนมาพบศพลอยขึ้นติดท่าน้ำหน้าวัดซึ้ง ห่างจากบ้านเช่าที่เป็นจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร

นางสาลี่ ศรีลาคำ อายุ 61 ปี แม่ผู้ตายกล่าวว่า นายชาญชัย เป็นลูกชายของตน มีงานทำไม่เป็นหลักแหล่ง เข้าๆ ออกๆ หลายโรงงาน และในวันที่เกิดเหตุตนก็อยู่ภายในบ้าน และเห็นลูกชายกระโดดลงน้ำหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และก็ขาดการติดต่อไป แต่ตนก็เข้าใจว่าลูกชายคงว่ายน้ำหนีเอาตัวรอดไปได้เนื่องจากลูกชายว่ายนำเก่ง

จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแจ้งว่า พบศพลูกชาย ซึ่งตนก็คิดว่าขณะที่ลูกชายหลบซ่อนตัวอยู่ภายในน้ำอาจเป็นตะคิว จนเป็นสาเหตุให้จมน้ำเสียชีวิต ตนไม่ได้ติดใจในสาเหตุการตายของลูกชาย และจะได้รับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป