xs
xsm
sm
md
lg

ตร.กรุงเก่าคุม 2 ผู้ต้องหาข่มขืน-ชิงทรัพย์สาว 19 ไปทำแผนหลังจนมุมตำรวจ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจพระนครศรีอยุธยา คุมตัว 2 ผู้ต้องหาข่มขืนแล้วชิงทรัพย์สาว 19 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุแล้วหลบหนี แต่ไปไม่รอดเจ้าหน้าที่ค้นพบประวัติเก่า ทั้งสองยอมรับสารภาพทำจริง



เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (27 ม.ค.) พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ภูดิท ชนะคชภัทร์ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุริยา อยู่แพทย์ ผกก.สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัว นายธวัชชัย หรือตั้ม คงสมชีพ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/3 ม.2 ต.หนองน้ำใส อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา และนายทัศไนย ธรรมนาม อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 ม.12 ต.ชุมพลบุรี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุข่มขืนหญิงสาวอายุ 19 ปี และชิงทรัพย์เป็นรถจักรยานยนต์ โทรศัพท์มือ และเงินสดไป เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

โดยคุมตัวไปทำแผนที่บริเวณริมถนนสาย ต.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยในวันเกิดผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้นอนเล่น และดมกาวเพื่อดักรอเหยื่ออยู่บริเวณแยกสะพานหนึ่ง ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อผู้เสียหายขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา นายทัศไนย และนายธวัชชัย จึงพากันขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามผู้เสียหายไป โดยมี นายทัศไนย เป็นคนขับ ส่วนนายธวัชชัย เป็นคนซ้อนท้าย จนมาถึงบริเวณสะพานเหล็ก ต.สามบัณฑิต อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ระยะทาง 3 กิโลเมตร นายทัศไนย ได้ขับรถเข้าไปประกบรถของผู้เสียหาย ส่วนนายธวัชชัย ได้เอื้อมมือไปบิดกุญแจรถจนทำให้รถผู้เสียหายล้มลง

จากนั้น นายธวัชชัย ได้จอดรถเข้าไปยึดรถของผู้เสียหายไว้ ส่วนนายทัศไนย ได้ลงไปใช้มือตบและเท้าเตะผู้เสียหาย พร้อมกับชิงเอารถขักรยานยนต์ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง กระเป๋าภายในมีเอกสาร และรูปถ่ายของผู้เสียหายไป แล้วบังคับให้ผู้เสียหายขึ้นรถจักรยานยนต์ไปกับนายธวัชชัย โดยให้ผู้เสียหายนั่งด้านหน้าคนขับ

จากนั้นทั้ง 2 ได้พาผู้เสียหายไปตามถนนห่างจากจุดที่ชิงรถประมาณ 7 กิโลเมตร แล้วลากตัวลงไปที่กลางทุ่งนาแล้วผลัดกันข่มขืนผู้เสียหาย โดย นายทัศไนย เป็นคนข่มขืนก่อนจนสำเร็จความใคร่ ต่อมา นายธวัชชัย จึงข่มขืนต่อจนสำเร็จความใคร่ หลังจากนั้น นายธวัชชัย ได้ขับรถพาผู้เสียหายไปส่งที่สามแยกดอนพุทรา ก่อนที่จะนำรถจักรยานยนต์ไปชำแหละขายที่บ้านของ นายทัศไทย ในพื้นที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี

พล.ต.ต.สุทธิ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้เร่งสืบสวนตรวจค้นจากทะเบียนประวัติอาชญากรรม จนทราบตัวผู้ต้องสงสัย และนำภาพถ่ายของนายธวัชชัย ไปให้ผู้เสียหายดูยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามตัวนายธวัชชัย มาสอบสวน

โดย นายธวัชชัย ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายทัศไนย ในการลงมือก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่จึงขยายผลตามจับกุมตัวนายทัศไนย พร้อมกับตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย รวมทั้งเสื้อผ้าของผู้ต้องหาได้ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ของ นายทัศไนย ในพื้นที่ จ.สระบุรี ซึ่งพบว่ารถจักรยานยนต์ถูกแยกชิ้นส่วนลบหมายเลขเครื่องแล้ว โดยกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้มีประวัติในการโจรกรรมรถขจักรยานยนต์ และชิงรถจักรยานยนต์ในหลายท้องที่มาแล้ว

จึงอยากฝากเตือนประชาชนโดยเฉพาะที่เป็นสุภาพสตรีไม่ควรขับขี่รถจักรยานยนต์ไปในทางที่เปลี่ยวเพียงคนเดียว ควรขับขี่ไปพร้อมๆ กัน หรือมีญาติตามาด้วย ทรัพย์สินที่ใส่แล้วเห็นเป็นที่ล่อตาล่อใจไม่ควรใส่เพื่อไม่เป็นการเปิดช่องโอกาสให้คนร้ายก่อเหตุอันน่าเศร้าใจเช่นนี้อีก





กำลังโหลดความคิดเห็น