กาญจนบุรี - เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ตะครุบคนงานชาวมอญ ลอบนำแบ็กโฮขุดสระในเขตอุทยานแห่งชาติ อ้างได้ค่าจ้างขุด 400 บาท จากชาวต่างชาติ
วันนี้ (10 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบชายต้องสงสัยกำลังใช้รถแบ็กโฮ และรถแทรกเตอร์ขุดเจาะสระน้ำในพื้นที่กันน้ำท่วม ที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนเขาแหลม ท้องที่ หมู่ 1 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบสั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่าที่ กจ.2 (พุถ่อง) นำกำลังไปตรวจสอบ
ไปถึงพบบุคคลเป็นชายกำลังขับรถแบ็กโฮขุดเจาะพื้นที่ทำสระน้ำอยู่ โดยมีรถแทรกเตอร์จอดอยู่ใกล้กัน จำนวน 1 คัน เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจสอบ จากการตรวจสอบค่าพิกัดของพื้นที่ขุดเจาะพบว่า อยู่ที่พิกัด 0442497 E 1674766 (WGS 84) ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม โดยสระน้ำดังกล่าวลึก 1 เมตร กว้าง 4 เมตร ยาว 5 เมตร เนื้อที่ 0-0-05 ไร่ โดย นายสุมิตร บอกต่อเจ้าหน้าที่ว่า ได้รับค่าจ้างจากหญิงชาวต่างชาติเป็นเงิน จำนวน 400 บาท ให้มาขุดเจาะสระน้ำบริเวณดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางเอาไว้ พร้อมกับคุมตัวชายคนดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุมิตร ไม่มีนามสกุล ชาวมอญ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/พ หมู่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ให้ข้อมูลว่า การดำเนินการจับกุมครั้งนี้เป็นแผนปฏิบัติการอย่างเข้มข้นต่อผู้กระทำผิดลักษณะนายทุนรายใหญ่ ซึ่งมักจะแอบลักลอบกระทำผิดในพื้นที่ไกลหูไกลตาเพื่อยึดพื้นที่ ซึ่งผูกระทำผิดรายนี้กระทำผิดในเขตน้ำท่วมถึงของเขื่อนวชิราลงกรณ แต่ส่วนมากระดับน้ำจะไม่ถึงจุดกักเก็บน้ำสูงสุด ทำให้นายทุนหัวใสใช้ช่องว่างตรงนี้เข้ายึดครอง และปรับปรุงสร้างสิ่งก่อสร้างเพราะจะเห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเขื่อนวชิราลงกรณ ทาง อช.เขาแหลม จึงขอเตือนว่า พื้นที่น้ำท่วม หรือพื้นที่น้ำอยู่ในเขต อช.เขาแหลม การเข้ามาบุกรุกก่อสร้างต่างมีความผิดตามกฎหมาย จะต้องถูกดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด
สำหรับคดีนี้ผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่า ผู้ว่าจ้างเป็นฝรั่งชาวต่างชาติ อาจถูกหลอกขายที่ให้หรือไม่อย่างไรทางอุทยานจะสืบสวนขยายผลต่อไป