xs
xsm
sm
md
lg

โวย ทต.คำเหมือดแก้วใช้งบแก้ภัยแล้งไม่เกิดประโยชน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ตัวแทนชาวบ้านคำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ล่ารายชื่อชาวบ้าน เพื่อยื่นเรียกร้อง ขอให้ผู้บริหารเทศบาลตำบลคำเหมือดแก้วแก้ไขและเพิ่มงบประมาณโครงการขุดลอกเสริมถนนรอบหนองฝายวัด
กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านตำบลคำเหมือดแก้ว อำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ 5 หมู่บ้าน โวยโครงการขุดลอกเสริมถนนรอบหนองน้ำสาธารณะแก้วิกฤตภัยแล้งโดยวิธีจัดจ้างกรณีพิเศษของเทศบาลตำบลคำเหมือดแก้วไม่เกิดประโยชน์แก่ชาวบ้าน เรียกร้องให้ผู้บริหารฯ ปรับแก้โครงการเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและใช้เงินหลวงอย่างมีคุณค่า

วันนี้ (17 พ.ค. 59) ตัวแทนชาวบ้านคำเหมือดแก้ว หมู่ 1, 2, 3, 8 และ 9 ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ กว่า 10 คน นำโดยนายเขียว ไชยโสดา อายุ 77 ปี และนายประสบ ชินกลางมัน อายุ 54 ปี ได้ออกล่ารายชื่อชาวบ้านเพื่อร่วมกันทักท้วงและเสนอชื่อเรียกร้องขอให้ผู้บริหารเทศบาลตำบลคำเหมือดแก้วแก้ไขและเพิ่มงบประมาณโครงการขุดลอกเสริมถนนรอบหนองฝายวัด แหล่งน้ำสาธารณะประจำตำบล

จากเดิมเทศบาลฯ กำลังจะดำเนินโครงการขุดลอกเพียงแค่ริมฝั่งรอบหนองลึก 1 เมตรแล้วโกยดินมาถมถนนรอบหนอง โดยวิธีจัดจ้างกรณีพิเศษตกลงจ้างงบประมาณ 5 แสนบาท ให้ไปเป็นโครงการขุดลอกก้นอ่าง ความลึก 3 เมตรแทน เพื่อจะได้มีพื้นที่กักเก็บน้ำเพิ่มขึ้น

ขณะนี้ชาวบ้านตำบลคำเหมือดแก้วทั้ง 5 หมู่บ้านกำลังได้รับความเดือดร้อนจากภาวะวิกฤตขาดแคลนน้ำอุปโภคอย่างหนัก เนื่องจากแหล่งน้ำดังกล่าวแห้งขอด ตื้นเขิน ไม่สามารถกักเก็บน้ำเพียงพอต่อการอุปโภค บริโภคของชาวบ้านในฤดูแล้งได้

นายเขียว ไชยโสดา ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ในช่วงที่ชาวบ้านกำลังประสบภัยแล้งและได้รับความเดือดร้อนจากภาวะขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในหน้าแล้งนี้ ทราบว่าทางผู้บริหารเทศบาลตำบลคำเหมือดแก้ว คือนายทองดี แก้วภิรมย์ นายกเทศมนตรีคำเหมือดแก้ว ได้อนุมัติให้ใช้เงินจ่ายขาดสะสมจำนวนหนึ่งมาใช้ขุดลอก โดยจะขุดเพียงแค่ริมฝั่งรอบหนองน้ำลึก 1 เมตร และโกยดินขึ้นมาเสริมถนนรอบหนองฝายวัด หนองน้ำสาธารณะประจำตำบล ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน มีพื้นที่ประมาณ 40 ไร่ที่ชาวบ้านทั้ง 5 หมู่บ้านใช้ประโยชน์ร่วมกัน

ก่อนหน้านี้ชาวบ้านเห็นผู้รับเหมานำรถแบ็กโฮเข้ามาทำการขุดลอก จึงได้ทักท้วง เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ไม่ตรงต่อความต้องการของชาวบ้าน เพราะความต้องการของชาวบ้านคือต้องการเพิ่มการกักเก็บน้ำ ไม่ได้ต้องการถนน แต่ผู้บริหารท้องถิ่นเหมือนมองไม่เห็นความเดือดร้อนชาวบ้าน กลับจะให้แบ็กโฮขุดรอบๆ หนองแล้วโกยดินขึ้นมาเสริมถนนเท่านั้น ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้ไม่ใช่การแก้ปัญหา และเป็นการใช้งบประมาณไม่เกิดประโยชน์ ซึ่งอาจส่อเอื้อประโยชน์แก่ผู้รับเหมา

ด้านนายประสบ ชินกลางมัน กล่าวว่า กรณีดังกล่าวชาวบ้านขอดูรายละเอียดโครงการกับทางเทศบาลตำบลคำเหมือดแก้ว พบว่าเป็นโครงการขุดลอกรอบหนองลึก 1 เมตร งบประมาณ 5 แสนบาท โดยเป็นการจ้างกรณีพิเศษ หรือตกลงจ้างระหว่างนายกเทศมนตรีกับผู้รับเหมา ทั้งๆ ที่ทราบจากสมาชิกสภาตำบลฯ ว่าเทศบาลฯ มีเงินสะสมที่สามารถจ่ายขาดประมาณ 1 ล้านกว่าบาท และสมาชิกสภาทุกคนเสนอให้ผู้บริหารนำมาทำโครงการขุดลอกหนองฝายวัดตามความต้องการของชาวบ้าน โดยขุดบริเวณก้นอ่างและให้มีความลึก 3 เมตรเพื่อเพิ่มปริมาณการกักเก็บน้ำ แต่กลับไม่ได้รับการตอบสนองจากนายกเทศมนตรี

นอกจากนี้ ทราบในภายหลังว่ามีการเรียกผู้รับเหมาที่เป็นคนใกล้ชิดเข้าไปตกลงจ้างในรูปแบบจ้างกรณีพิเศษ สร้างความไม่พอใจแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก จึงมีการประท้วงไม่ให้รถแบ็กโฮลงมือทำงาน และร่วมลงชื่อให้ครบทั้ง 5 หมู่บ้านเพื่อเสนอสภาตำบลพิจารณาให้ผู้บริหารทบทวนและปรับแก้โครงการ เพื่อให้เทศบาลฯ ใช้เงินหลวงอย่างมีคุณค่า และเกิดประโยชน์แก่ชาวบ้าน ไม่ใช่เอื้อประโยชน์แก่ผู้บริหารหรือบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

ขณะที่นายทองสุข พลเกิ้น ประธานสภาเทศบาลตำบลคำเหมือดแก้ว กล่าวว่า ปัจจุบันเทศบาลฯ มีเงินสะสมประมาณ 1,030,000 ล้านบาท สามารถจ่ายขาดเงินสะสมได้ตามข้อบัญญัติ โดยสมาชิกทุกคนมีความเห็นตรงกันว่าจะเสนอผู้บริหารจ่ายขาดเงินสะสม ขุดลอกหนองฝายวัด ให้มีพื้นที่กักเก็บน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งจะสามารถกักเก็บน้ำฝนเพื่อการอุปโภคบริโภคของชาวบ้านคำเหมือดแก้ว 5 หมู่บ้านได้ตลอดปี แต่กลับไม่ได้รับความเห็นชอบจากผู้บริหาร

โดยจัดสรรเงินสะสมที่มีอยู่ออกเป็น 2 ส่วน คือขุดรอบหนองฯ และนำดินขึ้นเสริมถนนรอบหนองฯ งบประมาณ 5 แสนบาท ส่วนที่เหลือสำรองไว้เพื่อทำโครงการอื่น ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจและได้ลงชื่อทักท้วงโครงการ

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ชาวบ้านได้รวบรวมรายชื่อเรียบร้อยแล้ว ตนและสมาชิกสภาเทศบาลตำบลคำเหมือดแก้วจะทำหนังสือนำแจ้งผู้บริหารเพื่อขอเปิดสภาเทศบาลฯ ขอให้ผู้บริหารทบทวนต่อไป ส่วนชาวบ้านได้เตรียมที่จะทำหนังสือร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ รวมทั้ง สตง. และ ป.ป.ช. เพื่อให้ผู้บริหารทบทวนการใช้เงินสะสมจ่ายขาดอีกครั้งหนึ่ง เพราะชาวบ้านต้องการน้ำอุปโภคบริโภคบรรเทาวิกฤตแล้ง มิใช่เอาความเดือดร้อนของชาวบ้านเป็นช่องทางแสวงหาประโยชน์ให้ใคร

ทั้งนี้ แหล่งข่าวในพื้นที่ยังระบุว่า จากการตรวจสอบโครงการขุดลอกรอบหนองฝายวัด ยังพบพิรุธว่ามีการกำหนดค่าคิวดินต่อหน่วยสูงถึงคิวละ 38 บาท ขณะที่โดยทั่วไปคิวละ 30 บาทเท่านั้น ซึ่งเป็นอัตราที่สูงเกินไปอีกด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น