ชัยนาท - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (29 เม.ย.) พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปที่โรงเรียนวัดสิงห์ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท พร้อมด้วย นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร และผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ปี 2559 ระดับประเทศ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แสดงความจงรักภักดีในโอกาสอันเป็นมิ่งมงคล และถ่ายทอดความรู้ด้านการเกษตรให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ภาคกลางที่ประสบปัญหาภัยแล้ง โรคไหม้ และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าว ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 เมษายน 2559
โดยมีเกษตรกรกว่า 2,000 คน เข้ามาขอรับบริการตามคลินิกต่างๆ ได้แก่ คลินิกดิน คลินิกปศุสัตว์ คลินิกพืช คลินิกประมง คลินิกชลประทาน และคลินิกอื่นๆ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นผู้ให้ความรู้ เพื่อให้แก่เกษตรกรมีความเข้าใจสามารถแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรได้อย่างครบวงจร
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันนี้การทำเกษตร คงจะต้องมีการทบทวนวิธีการ หรือปฏิรูปการเกษตรทั้งประเทศ เพราะวันนี้การแข่งขันเรื่องสินค้าเกษตรมีการเปลี่ยนแปลงไป จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพัฒนาการทำนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้มีผลผลิตต่อไร่มากขึ้น แต่ก่อนที่จะพัฒนาได้ต้องรู้ก่อนว่าพื้นที่เพาะปลูก หรือเมล็ดพันธุ์ที่ใช้เหมาะสมต่อพื้นที่หรือไม่ มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นต่อการเกษตรที่ทำอยู่ คลินิกเกษตรที่กำลังทำโครงการนี้ก็จะมาช่วยได้ มาเสริมเติมให้ได้ว่าผลผลิตของสินค้าเกษตรที่เราทำอยู่นั้นจะได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น และจะได้คุณภาพเพิ่มขึ้นอย่างไร
“ผมประกาศเป็นวาระของกระทรวงว่า ปีนี้เป็นปีแห่งการลดต้นทุน และเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน ต้องยกระดับสินค้าเกษตรให้ดีขึ้นถึงจะขายได้ดี ถ้ายังผลิตสินค้าแบบเดิมจะไม่สามารถสู้กับตลาดต่างประเทศได้ เกษตรกรต้องคิดใหม่ทำใหม่ ซึ่งฝ่ายราชการได้พยายามเต็มที่ด้วยการผลักดันโครงการต่างๆ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ผลักดันเจ้าหน้าที่ทุกคนให้เข้าไปส่งเสริม และสร้างความเข้าใจต่อเกษตรกร ว่า การทำสินค้าเกษตรต้องนึกถึงเรื่องคุณภาพเป็นสำคัญมากกว่าปริมาณ การใช้พื้นที่ปลูกจำนวนเท่าเดิมทำอย่างไรถึงจะได้ผลผลิตมากขึ้น 1 ไร่ ต้องผลิตข้าวให้ได้ 600-700 กก.เป็นอย่างต่ำ ต้องผลักดันให้ได้ หรือ 800 กก.เป็นอย่างต่ำ นั่นคือเป้าหมายที่จะต้องทำ”
ทั้งนี้ การจัดงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ กระทรวงเกษตรฯ ได้ดำเนินการตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปัจจุบัน มีเกษตรกรมารับบริการแล้วทั้งสิ้นกว่า 3,263,437 ราย พบว่า เกษตรกรเข้ารับบริการตามลำดับ คลินิกดิน คลินิกปศุสัตว์ คลินิกพืช คลินิกประมง คลินิกอื่นๆ (ข้าว ชลประทาน บัญชี ชลประทาน สหกรณ์ กฎหมาย หม่อนไหม บริหารศัตรูพืช เนื้อเยื่อ ผึ้ง ที่สูง จักรกลการเกษตร) ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการปรับปรุงรูปแบบการดำเนินงานมาเป็นลำดับ เน้นให้มีการติดตามแก้ไขปัญหาให้แก่เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ทั้งรูปแบบรายบุคคล และแก้ไขปัญหาในภาพรวมของพื้นที่ รวมทั้งจัดให้มีระบบบันทึกข้อมูล การรายงานผลการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง
