ศรีสะเกษ- ผู้การฯ ศรีสะเกษ เผยคุมตัว “ลูกเทพ” ทุบรถยนต์ 9 คัน ประชดแม่ขอเงินซื้อบิ๊กไบค์ไม่ให้ส่งฟ้องศาลวันนี้ ชี้คดีไม่ซับซ้อน และผู้ต้องหารับสารภาพ โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท เชื่อผู้ต้องหาไม่ป่วยโรคจิต แต่เกิดจากได้รับการตามใจจากแม่มาตลอดเพราะเป็นลูกชายคนเดียว ส่วนการขอประกันตัวเป็นสิทธิตาม กม. จับตาแม่ญาติยื่นหรือไม่
วันนี้ (29 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณี นายกิติศักดิ์ วงษ์เลิศ อายุ 20 ปี ลูกชายของ นางรุจิราภรณ์ หลาวทอง นักวิชาการศึกษาชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ศรีสะเกษ เขต 1 ได้บุกเข้าไปใช้ก้อนหินขนาดใหญ่ทุบกระจกด้านหลังรถยนต์ของ นางวัทรา แท่นสละ นักวิชาการการเงินและบัญชีชำนาญการพิเศษ จอดอยู่ภายในบริเวณ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 ได้รับความเสียหาย ซึ่ง นางวัทรา ได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ และล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวคนร้ายรายนี้ได้แล้ว ตามข่าวที่ได้นำเสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุด พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้ทำการสอบปากคำ นายกิติศักดิ์ วงษ์เลิศ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหารายนี้เรียบร้อยแล้ว และจะนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลจังหวัดศรีสะเกษ ภายในวันนี้ เนื่องจากนายกิติศักดิ์ ได้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ที่ถูกกล่าวหาว่าทำลายทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งปรับทั้งจำ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
หลังจากที่ส่งฟ้องศาลไปแล้ว ศาลอาจพิพากษาในวันนี้ เนื่องจากผู้ต้องหารับสารภาพแล้ว และคดีไม่มีความซับซ้อนอะไร แต่อาจเกี่ยวข้องต่อคดีแพ่ง ซึ่งศาลอาจให้มีการพูดคุยเจรจาค่าเสียหายกับเจ้าทุกข์เสียก่อน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลจังหวัดศรีสะเกษ
ส่วนการยื่นขอประกันตัวนั้นเป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่มีสิทธิที่จะได้รับการประกันตัว เนื่องจากเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามกฎหมาย สามารถขอประกันตัวได้ แต่ขึ้นอยู่กับว่าแม่ของผู้ต้องหา หรือญาติจะมาทำการประกันตัวหรือไม่ เนื่องจากผู้ต้องหาได้เคยก่อเหตุทุบรถยนต์มาแล้วถึง 9 คัน
พล.ต.ต.สุรเดช กล่าวต่อว่า จากการที่ตนได้สอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นด้วยตนเอง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เหตุที่ไปทุบรถยนต์ของประชาชนนั้นสาเหตุเกิดจาก นางรุจิราภรณ์ หลาวทอง แม่ของผู้ต้องหาได้ไปรับปากต่อผู้ต้องหาแล้วว่า จะให้เงิน จำนวน 500,000 บาท แก่ผู้ต้องหา แต่เมื่อผู้ต้องหาทวงถาม นางรุจิราภรณ์ ก็บ่ายเบี่ยงพยายามหลบหน้ามาโดยตลอด
เมื่อถามว่า ทำไมต้องไปขอเงินแม่มากมายขนาดนั้น ผู้ต้องหาบอกว่า ต้องการนำเอาเงินไปซื้อรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ยี่ห้อดัง ซึ่งผู้ต้องหาบอกว่า เห็นเงินในบัญชีของแม่ว่ามีเงินอยู่ จึงได้ร้องขอเงิน แต่เมื่อถูกแม่ปฏิเสธจึงได้ทุบรถยนต์เพื่อเป็นการประชดแม่ และส่งสัญญาณให้แม่รู้ว่าจะทุบรถจนถึง 10 คัน จนกว่าแม่จะให้เงินตามที่ขอ แต่มาถูกตำรวจจับกุมเสียก่อน
คดีนี้จากการสังเกตแล้ว ผู้ต้องหาไม่ได้ป่วยเป็นโรคจิต หรือต้องการบำบัดแต่อย่างใด แต่เกิดจากการที่ผู้ต้องหาได้รับการตามใจจากแม่มาตลอด เนื่องจากเป็นลูกชายคนเดียว จึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ซึ่งจะได้ให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งจะได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลรักษาความปลอดภัยภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 เพื่อเป็นการเฝ้าระวังเหตุให้เจ้าหน้าที่ทุกคนในสำนักงานแห่งนี้ได้มีความอบอุ่นใจ ซึ่งจะรักษาความปลอดภัยให้อย่างเต็มที่
ทางด้าน นางวัทรา แท่นสละ นักวิชาการการเงินและบัญชีชำนาญการพิเศษ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 เจ้าของรถถูกทุบกระจกเสียหายเป็นคันที่ 9 กล่าวว่า การที่ นายกิติศักดิ์ วงษ์เลิศ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นคนร้ายคดีนี้ถูกตำรวจจับกุมได้แล้วนั้นตนรู้สึกดีใจมากที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ต้องขอชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.ศรีสะเกษ แต่ผู้ที่ดีใจมากกว่าตนคือ บรรดาข้าราชการที่อยู่ในสำนักงาน สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 เนื่องจากจะได้สบายใจว่า ไม่มีคนร้ายมาเที่ยวตระเวนทุบรถยนต์อีกต่อไป
แต่ที่ตนสงสัยมากคือ เหตุใดผู้บริหารระดับสูงของ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 จึงไม่ได้มอบหมายให้นิติกรไปแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ในข้อหาที่ นายกิติศักดิ์ วงษ์เลิศ บุกรุกสถานที่ราชการ เนื่องจากมีการก่อเหตุอย่างต่อเนื่องมาแล้วถึง 9 ครั้งติดต่อกัน ตนจึงขอเรียกร้องไปยังผู้บริหารระดับสูงให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อจะได้เป็นการทำให้บรรดาข้าราชการ และลูกจ้างประจำทุกคนรู้ว่าทำงานในสำนักงานแห่งนี้แล้วมีความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ไม่ใช่ปล่อยให้เหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องอย่างนี้ จนทำให้ข้าราชการในสำนักงานขวัญกระเจิง มาทำงานก็หวั่นเกรงว่ารถยนต์อาจถูกทุบช่วงเวลาใดก็ไม่รู้