ศรีสะเกษ - คืบหน้าลูกเทพทุบรถคันที่ 9 ประชดแม่ขอเงิน 800,000 ไม่ได้ เจ้าทุกข์ยันเอาผิดตามกฎหมายถึงที่สุดไม่สนแม่คนร้ายขอเจรจา ขณะที่ตำรวจเตรียมออกหมายจับเร่งไล่ล่าจับกุมอย่างเร่งด่วนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดศรีสะเกษว่า จากกรณีที่ได้มีคนร้ายใช้ก้อนหินขนาดใหญ่ทุบกระจกรถของนางวัทรา แท่นสละ นักวิชาการการเงินและบัญชีชำนาญการพิเศษ โดยเหตุเกิดภายในบริเวณสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 26 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายกิติศักดิ์ วงศ์เลิศ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของนางรุจิราภรณ์ หลาวทอง นักวิชาการศึกษา ชำนาญการพิเศษ
โดยเหตุที่ก่อเหตุทุบรถเนื่องจากแค้นที่ขอเงินแม่จำนวน 800,000 บาท เพื่อที่จะไปซื้อรถบิ๊กไบค์ยี่ห้อดัง แต่แม่ไม่ให้จึงได้ทุบรถมาแล้ว 8 คัน คันล่าสุดนี้เป็นคันที่ 9 ซึ่งนางวัทราได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ แล้ว เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (28 เม.ย.) ที่บริเวณสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นางวัทรา แท่นสละ ซึ่งเป็นเจ้าของรถที่ถูกคนร้ายทุบกระจกได้นำเอารถมาจอดไว้ที่หน้าบริเวณสำนักงานเช่นเดิม ซึ่งทำให้คนทั่วไปที่ผ่านมาเจอต่างเข้ามาสอบถามสาเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งนางวัทรากล่าวว่า ตนได้ยืนยันกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษแล้วว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อคนร้ายรายนี้จนถึงที่สุด แม้ว่าแม่ของคนร้ายจะพยายามเข้ามาเจรจาเพื่อขอชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
แต่ตนยังไม่ยอมเจรจาด้วย ตนจะนำรถที่ถูกทุบกระจกมาจอดที่หน้าสำนักงานทุกวันและตนได้นำรถที่ถูกทุบไปให้บริษัทโตโยต้าศรีสะเกษ ประเมินค่าเสียหายที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งสั่งอะไหล่มาเปลี่ยนคิดเป็นเงินประมาณ 20,000 บาท ส่วนแม่ของคนร้ายหลังจากเกิดเหตุได้ลาพักผ่อน 3 วันเนื่องจากกระแสสังคมในสำนักงานโจมตีแม่ของคนร้ายที่ไม่ยอมแก้ไขปัญหาปล่อยให้ลูกชายมาก่อเหตุทำลายทรัพย์สินของผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง เสียหายมาแล้วถึง 9 คัน
ทางด้าน พ.ต.อ.ศิวัฒน์ ไมตรีแพน ผกก.สส.ภ.จว.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้ติดตามเรื่องนี้ และได้สั่งการให้ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษเร่งสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่ โดยเรื่องนี้แยกเป็น 2 คดี คือ คดีขัดคำสั่งศาลคดีเยาวชนและครอบครัวที่สั่งห้ามไม่ให้เข้าไปในสำนักงานเขต และข้อหาทำลายทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย ซึ่งข้อหาทำลายทรัพย์สินจะแยกเป็นคดีอาญาและคดีแพ่ง
อีกทั้งขณะนี้กำลังรอหมายจับจากศาลเยาวชนและครอบครัว โดยตนจะได้ร่วมกับ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ ไล่ล่าจับกุมคนร้ายรายนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คนร้ายไปก่อเหตุทำลายทรัพย์สินของผู้อื่นอีกต่อไป