ศูนย์ข่าวศรีราชา - บีโอไอแหลมฉบัง เผยตัวเลขการลงทุนภาคอุตสาหกรรมที่ได้รบอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคตะวันออก ช่วงไตรมาสแรกปี 59 มีทั้งสิ้น 107 โครงการ เม็ดเงินลงทุนรวมกว่า 4 หมื่นล้านบาท โดยจังหวัดชลบุรี ยังครองแชมป์ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุน และมีเม็ดเงินลงทุนสูงสุดในพื้นที่
วันนี้ (28 เม.ย.) ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 4 หรือบีโอไอแหลมฉบัง (BOI Laemchabang) ได้เปิดเผยตัวเลขการลงทุนในภาคตะวันออกช่วงไตรมาสแรกของปี 2559 (1 มกราคม-31 มีนาคม) ว่า มีจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคตะวันออก รวมทั้งสิ้น 107 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 41,249 ล้านบาท มีการจ้างงาน จำนวน 9,806 คน ซึ่งจังหวัดที่มีจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุน รวมทั้งยังมีมูลค่าการลงทุนมากเป็นอันดับ 1 คือ จังหวัดชลบุรี คือ มีจำนวน 52 โครงการ หรือร้อยละ 48.59 ของจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนทั้งหมด และมีเม็ดเงินลงทุนรวม 19,057 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 46.19 ของมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมด
รองลงมาคือ จังหวัดระยอง มีจำนวน 36 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 33.64 ของจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนทั้งหมดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2559 และมีเม็ดเงินลงทุนมากเป็นอันดับที่ 3 คือ มีมูลค่าการลงทุนที่ 8,943 ล้านบาท
ขณะที่จังหวัดปราจีนบุรี แม้จะมีโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอเพียง 8 โครงการ แต่ก็มีเม็ดเงินลงทุนรวม 11,214 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 27.18 ของมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมด สูงเป็นอันดับที่ 2 ในภาคตะวันออก
ส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา มีโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 8 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 1,108 ล้านบาท ขณะที่จังหวัดสระแก้ว มี 2 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 875 ล้านบาท จังหวัดนครนายก มีจำนวน 1 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 52 ล้านบาท ด้านจังหวัดจันทบุรี และตราด ยังไม่มีโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ
ทั้งนี้ ประเภทกิจการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในภาคตะวันออก มากเป็นอันดับ 1 คือ อุตสาหกรรมทางการเกษตรและผลิตผลจากการเกษตร รองลงมาคือ อุตสาหกรรมเหมืองแร่ เซรามิก และโลหะมูลฐาน อุตสาหกรรมเบา ผลิตภัณฑ์โลหะเครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ กระดาษและพลาสติก และกิจการบริการและสาธารณูปโภค