ศูนย์ข่าวศรีราชา - “บีโอไอ” แหลมฉบัง เผยภาพรวมโครงการที่ได้รับอนุมัติใน 8 จังหวัดภาคตะวันออก ช่วงเดือน ก.ค. มี 54 โครงการ มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ 7 เดือนของปี 58 มี 547 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2 แสนล้านบาท จ้างงานกว่า 4 หมื่นคน
วันนี้ (26 ส.ค.) ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคตะวันออก แหลมฉบัง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สรุปภาวะการลงทุนภาคตะวันออกเดือนกรกฎาคม 2558 ว่า มีโครงการที่ได้รับอนุมัติใน 8 จังหวัด ประกอบด้วย ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ปราจีนบุรี และนครนายก รวม 54 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 23,982 ล้านบาท จ้างงาน 2,660 คน
จังหวัดที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนมากเป็นเป็นอันดับ 1 คือ ชลบุรี 23 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 42.59 เม็ดเงินลงทุน 2,947 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12.28 รองลงมา คือ ระยอง 19 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 35.18 วงเงินลงทุน 18,448 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 76.29 ปราจีนบุรี 10 โครงการ วงเงินลงทุน 1,987 ล้านบาท ฉะเชิงเทรา 1 โครงการ วงเงินลงทุน 120 ล้านบาท และสระแก้ว 1 โครงการ วงเงินลงทุน 480 ล้านบาท
และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนพบว่า เดือนกรกฎาคม 2558 มีโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนน้อยกว่าปี 2557 และมูลค่าการลงทุน และการจ้างงานน้อยกว่าถึงเท่าตัว ประเภทกิจการที่ได้รับการอนุมัติ ประกอบด้วย อุตสาหกรรมทางการเกษตรและผลิตผลจากการเกษตร อุตสาหกรรมเหมืองแร่ เซรามิกและโลหะมูลฐาน อุตสาหกรรมเบา ผลิตภัณฑ์โลหะเครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ กระดาษและพลาสติก รวมทั้งกิจการบริการและสาธารณูปโภค
ขณะที่ภาพรวมการลงทุนในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (1 มกราคม-31 กรกฎาคม) มีโครงการได้รับอนุมัติการส่งเสริมรวม 547 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 204,905 ล้านบาท จ้างงาน 44,804 คน โดยจังหวัดที่มีจำนวนโครงการได้รับอนุมัติมากเป็นอันดับ 1 คือ ระยอง 211 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 38.57 รองลงมา คือ ชลบุรี 181 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 33.08 ข
จังหวัดที่มีมูลค่าการลงทุนมากที่สุดยังคงเป็นจังหวัดระยอง รวม 98,311 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 47.97 รองลงมา คือ ชลบุรี 51,024 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 24.98 ของมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมดในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2558
