กาฬสินธุ์- ประธานศูนย์ส่งเสริมและผลิตพันธุ์ข้าวชุมชน (ข้าวเขาวง) ต.หนองผือ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ เตือนเกษตรกรรีบหาซื้อเมล็ดพันุธุ์ข้าวเตรียมทำนาปีฤดูกาลผลิต 2559/60 หลังพันธุ์ข้าว กข.6 และข้าวหอมมะลิ 105 จากแหล่งข้าวเขาวง ล็อตสุดท้ายเหลือไม่มาก พร้อมลดราคาช่วยเหลือเพื่อนเกษตรกรในแล้งนี้ด้วย
ที่ศูนย์ส่งเสริมและผลิตพันธุ์ข้าวชุมชน หมู่ที่ 1 ต.หนองผือ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ นายประสาท พิมเภา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.หนองผือ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ในฐานประธานศูนย์ส่งเสริมและผลิตพันธุ์ข้าวชุมชน ได้เตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้สำหรับเกษตรกรที่กำลังจะเตรียมพื้นที่ทำนาปีฤดูกาลผลิต 2559/60 โดยปีนี้ การซื้อขายเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ จ.กาฬสินธุ์ คึกคัก โดยเฉพาะข้าวคุณภาพอย่างข้าวเขาวง ทั้งข้าวจ้าวหอมมะลิ 105 และข้าวเหนียว กข.6
นายประสาท พิมพเภา ระบุว่า ผลกระทบจากภัยแล้งทำให้การผลิตเมล็ดพันธุ์ขข้าวมีจำนวนน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 10 เปอร์เซ็นต์ จากปกติจะผลิตได้ที่ 65 ตัน
ขณะที่ความต้องการเมล็ดพันธุ์ข้าวจากพื้นที่ข้าว GI ที่เป็นข้าวเขาวงทั้งข้าวเจ้า และข้าวเหนียวมีเยอะทั้งในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และจังหวัดใกล้เคียงแถบภาคอีสาน ทั้งนี้ เมล็ดพันธุ์ข้าวได้เริ่มทยอยขายไปตั้งแต่ต้นปีมากกว่า 20 ตัน ขณะที่ล๊อตสุดท้ายที่เหลือในสต๊อกขณะนี้น่าจะเหลือเพียง 20 ตันเท่านั้น
สำหรับความพร้อมด้านแปลงใหญ่ในการผลิตข้าวเขาวง ที่เป็นข้าว GI บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ปีนี้มีเกษตรกรเข้าร่วมแล้วกว่า 3,000 ไร่ สมาชิกเกษตรกร 288 ราย
“เป็นผลพวงงจากภาวะภัยแล้งที่ส่งผลกระทบให้แก่แปลงข้าวที่ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวได้ผลผลิตน้อยกว่าทุกๆ ปี แต่ทั้งนี้ ในเรื่องคุณภาพยังรับรองได้ว่าจะเป็นพันธุ์ข้าวที่ตอบสนองเกษตรกรที่ต้องการข้าวคุณภาพดีได้อย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ เพราะทางศูนย์ส่งเสริมและผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชน (ข้าวเขาวง) หมู่ที่ 1 ต.หนองผือ องเขาวง จ.กาฬสินธุ์ มีขั้นตอนการตรวจสอบเกษตรกรและแปลงนาอย่างละเอียด ที่เกษตรกรที่จะเป็นแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวจะต้องใช้วิธีการปักดำ หากข้าวแตกกอต้องตัดทิ้ง ความสูง ความต่าง หากไม่ได้มาตรฐานต้องตัดทิ้ง รวมถึงการออกรวงที่จะต้องเป็นไปตามที่กรมวิชาการเกษตรแจ้งไว้ หาก 1 ใน 3 ขั้นตอนไม่ผ่านจะไม่สามารถจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวได้
ปัจจุบัน สมาชิกของศูนย์ฯ 28 ราย เป็นเครือข่ายผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของ ต.หนองผือ พันธุ์ข้าวเขาวงแท้ๆ ปีหนึ่งๆ จะอยู่ที่ 60-65 ตันเท่านั้น สำหรับภัยแล้งในปีนี้เกษตรกรควรที่จะเพิ่มเติมความรู้ด้านทฤษฎีให้มากในการทำนาสู้ต่อภัยแล้ง ต้องนำเอาเทคโนโลยีเกษตรมาใช้ โดยเฉพาะการลดต้นทุน ลดแรงงาน ที่สำคัญอย่าใจร้อนทำนาในช่วงนี้
ถ้าเป็นไปได้ควรที่จะหันมาปรับปรุงบำรุงดินด้วยปุ๋ยพืชสด และปุ๋ยหมัก เริ่มตกกล้าในเดือน มิ.ย. ปักดำในเดือน ก.ค. จะได้เกี่ยวข้าวในช่วงเดือน พ.ย. ที่น่าจะพอดีไม่เกิดปัญหาฝนทิ้งช่วง
ที่ศูนย์ส่งเสริมและผลิตพันธุ์ข้าวชุมชน หมู่ที่ 1 ต.หนองผือ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ นายประสาท พิมเภา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.หนองผือ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ในฐานประธานศูนย์ส่งเสริมและผลิตพันธุ์ข้าวชุมชน ได้เตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้สำหรับเกษตรกรที่กำลังจะเตรียมพื้นที่ทำนาปีฤดูกาลผลิต 2559/60 โดยปีนี้ การซื้อขายเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ จ.กาฬสินธุ์ คึกคัก โดยเฉพาะข้าวคุณภาพอย่างข้าวเขาวง ทั้งข้าวจ้าวหอมมะลิ 105 และข้าวเหนียว กข.6
นายประสาท พิมพเภา ระบุว่า ผลกระทบจากภัยแล้งทำให้การผลิตเมล็ดพันธุ์ขข้าวมีจำนวนน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 10 เปอร์เซ็นต์ จากปกติจะผลิตได้ที่ 65 ตัน
ขณะที่ความต้องการเมล็ดพันธุ์ข้าวจากพื้นที่ข้าว GI ที่เป็นข้าวเขาวงทั้งข้าวเจ้า และข้าวเหนียวมีเยอะทั้งในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และจังหวัดใกล้เคียงแถบภาคอีสาน ทั้งนี้ เมล็ดพันธุ์ข้าวได้เริ่มทยอยขายไปตั้งแต่ต้นปีมากกว่า 20 ตัน ขณะที่ล๊อตสุดท้ายที่เหลือในสต๊อกขณะนี้น่าจะเหลือเพียง 20 ตันเท่านั้น
สำหรับความพร้อมด้านแปลงใหญ่ในการผลิตข้าวเขาวง ที่เป็นข้าว GI บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ปีนี้มีเกษตรกรเข้าร่วมแล้วกว่า 3,000 ไร่ สมาชิกเกษตรกร 288 ราย
“เป็นผลพวงงจากภาวะภัยแล้งที่ส่งผลกระทบให้แก่แปลงข้าวที่ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวได้ผลผลิตน้อยกว่าทุกๆ ปี แต่ทั้งนี้ ในเรื่องคุณภาพยังรับรองได้ว่าจะเป็นพันธุ์ข้าวที่ตอบสนองเกษตรกรที่ต้องการข้าวคุณภาพดีได้อย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ เพราะทางศูนย์ส่งเสริมและผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชน (ข้าวเขาวง) หมู่ที่ 1 ต.หนองผือ องเขาวง จ.กาฬสินธุ์ มีขั้นตอนการตรวจสอบเกษตรกรและแปลงนาอย่างละเอียด ที่เกษตรกรที่จะเป็นแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวจะต้องใช้วิธีการปักดำ หากข้าวแตกกอต้องตัดทิ้ง ความสูง ความต่าง หากไม่ได้มาตรฐานต้องตัดทิ้ง รวมถึงการออกรวงที่จะต้องเป็นไปตามที่กรมวิชาการเกษตรแจ้งไว้ หาก 1 ใน 3 ขั้นตอนไม่ผ่านจะไม่สามารถจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวได้
ปัจจุบัน สมาชิกของศูนย์ฯ 28 ราย เป็นเครือข่ายผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของ ต.หนองผือ พันธุ์ข้าวเขาวงแท้ๆ ปีหนึ่งๆ จะอยู่ที่ 60-65 ตันเท่านั้น สำหรับภัยแล้งในปีนี้เกษตรกรควรที่จะเพิ่มเติมความรู้ด้านทฤษฎีให้มากในการทำนาสู้ต่อภัยแล้ง ต้องนำเอาเทคโนโลยีเกษตรมาใช้ โดยเฉพาะการลดต้นทุน ลดแรงงาน ที่สำคัญอย่าใจร้อนทำนาในช่วงนี้
ถ้าเป็นไปได้ควรที่จะหันมาปรับปรุงบำรุงดินด้วยปุ๋ยพืชสด และปุ๋ยหมัก เริ่มตกกล้าในเดือน มิ.ย. ปักดำในเดือน ก.ค. จะได้เกี่ยวข้าวในช่วงเดือน พ.ย. ที่น่าจะพอดีไม่เกิดปัญหาฝนทิ้งช่วง
