xs
xsm
sm
md
lg

รมว.พาณิชย์ นำคณะทูต 24 ประเทศเยี่ยมชมหมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองเมืองช้าง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คณะเอกอัครราชทูต 24 ประเทศ พร้อมผู้บริหารระดับสูงศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ 70 คน  เยี่ยมชมหมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองจันทร์โสมา ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ วันนี้ ( 9 เม.ย.)
สุรินทร์ - รมว.พาณิชย์ นำคณะทูต 24 ประเทศ พร้อมผู้บริหารระดับสูงศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ 70 คน เยี่ยมชมหมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองจันทร์โสมา ต.ท่าสว่าง เมืองช้าง ทึ่งผ้าไหมยกทองทอด้วยมือสุดละเอียด ประณีต เมตรละ 2 แสน ตามกิจกรรมสาวเส้นไหมสืบสายใยพระราชปณิธาน รวมทั้งนำเสนอองค์ความรู้เชิงช่างชั้นสูงของช่างฝีมือไทย รองรับการเป็น Craft Destination

วันนี้ (9 เม.ย.) ที่บ้านท่าสว่าง กลุ่มทอผ้าจันทร์โสมา ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นำคณะเอกอัครราชทูตจาก 24 ประเทศ พร้อมกับผู้บริหารระดับสูงของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ จำนวน 70 คน เดินทางมาเยี่ยมชมการทอผ้าไหม ของกลุ่มทอผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติจันทร์โสมา

โดยมี นายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย นายวีระชัย ตระกูลเงินไทย ประธานกลุ่มทอผ้าไหมจันทร์โสมา ให้การตอนรับ และนำเยี่ยมชมการการย้อมสีผ้าไหม จากสีธรรมชาติ ที่ให้สีอย่างสวยงามด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ถ่ายทอดต่อกันมายาวนาน และเยี่ยมชมการทอผ้าไหมยกทอง ที่การทอผ้ามีความยุ่งยาก หลายขั้นตอน กี่ทอผ้าต้องใช้คนช่วยยก และสลับลายผ้าถึงกี่ละ 3-4 ค น ยกสูงจากพื้นดินถึง 4 เมตร การทอผ้าใช้ความละเอียดสูง วันหนึ่งทอผ้าด้วยมือได้ 2 เซนติเมตรเท่านั้น ผ้าไหมยกทองแต่ละผืนยาว 1 เมตร ใช้เวลาในการทอนานถึง 1 เดือน และขายเมตรละ 40,000-200,000 บาท เพราะมีความละเอียดสูง

กลุ่มทอผ้าไหมยกทองจันทร์โสมา ทอผ้าไหมเป็นผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาอันลึกซึ้งของชาวสุรินทร์ ที่ผ่านการสั่งสมมาอย่างยาวนานหลายชั่วอายุคน มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ และมีความหมายเป็นมงคล มีลักษณะนุ่ม เรียบ เป็นเงางาม สีสันไม่ฉูดฉาด และมีเนื้อผ้าที่แน่นละเอียดอ่อน ประณีต ผ้าไหมสุรินทร์จึงได้รับความนิยม และเป็นที่ต้องการของผู้คนทั่วไป

ทั้งนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2546 กลุ่มทอผ้าไหมยกทองจันทร์โสมา บ้านท่าสว่าง ต.ท่าสว่าง อ.เมืองสุรินทร์ ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ทอผ้าไหมเพื่อมอบให้แก่ผู้นำเอเปก เป็นสิ่งที่สร้างชื่อเสียงของจังหวัดสุรินทร์อย่างมาก

คณะเอกอัครราชทูตที่เดินทางมาเยี่ยมชมผ้าไหมยกทอง 24 ประเทศ ได้แก่ เบลเยียม ภูฏาน บรูไน กัมพูชา เดนมาร์ก อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ลาว ลิเบีย มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ไนจีเรีย ปากีสถาน ปานามา ฟิลิปปินส์ โปรตุเกส โรมาเนีย ศรีลังกา โอมาน สวิตเซอร์แลนด์ โมร็อกโก เกาหลี ติมอร์-เลสเต และยูเครน

กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย สร้างการรับรู้ และสร้างเครือข่ายงานหัตถกรรมไทยในต่างประเทศผ่านสถานเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ ประจำประเทศไทย โดยสร้างการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่บอกเล่าเรื่องราวการทรงงานด้านการส่งเสริม และสนับสนุนงานทอผ้าไทยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมทั้งนำเสนอองค์ความรู้เชิงช่างชั้นสูงของช่างฝีมือไทย รองรับการเป็น Craft Destination ในอนาคต

นายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ในวันนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ให้การต้อนรับคณะรัฐมนตรีว่าการทระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ พร้อมภรรยา เดินทางมาเยี่ยมชมการทอผ้าไหมของกลุ่มจันทร์โสมา ที่มีการทอผ้าไหมการย้อมสีธรรมชาติ คณะท่านทูตได้ชมการย้อมสีผ้า การทอผ้าไหมด้วยมือที่มีความละเอียดสูง ทุกท่านที่ได้ชมมีความพอใจ สนใจมาก จึงเป็นโอกาสที่ดีในการช่วยเผยแพร่ผ้าไหมของจังหวัดสุรินทร์ ในระดับนานาชาติ ทำให้ผู้ผลิตสามารถจำหน่ายผ้าไหมในระดับนานาชาติได้มากขึ้นอย่างแน่นอน









กำลังโหลดความคิดเห็น