สุรินทร์ - เจ้าหน้าที่ไทยรวบ 2 ชาวกัมพูชาหนีความลำบากแห้งแล้งและยากจนเข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงฝั่งชายแดนไทยด้าน อ.บัวเชด สุรินทร์ พร้อมของกลาง และไม้พะยูง 7 ท่อน อ้างรายได้ดี พ่อค้าเขมรตั้งโต๊ะรับซื้อไม่อั้น ทางการไม่ตรวจจับ เห็นเพื่อนบ้านทำแล้วรวย มีความเป็นอยู่สุขสบายเลยทำตามบ้าง แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้
วันนี้ (6 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนนี้ที่บริเวณชายป่าทิศใต้บ้านโอทะลัน หมู่ที่ 3 ตำบลจรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ พ.ต.อ.ยศวัจน์ งามสง่า ผกก.สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิชิตเวช ต๊ะผัด สว.กก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ นำกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ, ตำรวจ สภ.บัวเชด, ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 214, ทหารร้อย ร.213, ฝ่ายปกครองอำเภอบัวเชด เข้าจับกุม นายเฮิล พอล, นายเฮงมอล ชาวจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา
พร้อมของกลางอุปกรณ์การตัดไม้ ไฟฉาย และไม้พะยูง จำนวน 7 ท่อน ปริมาตร 0.343 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งหากหลุดรอดไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านได้จะมีมูลค่าหลายแสนบาท และหากข้ามไปยังประเทศปลายทางแหล่งสั่งซื้อไม้พะยูงจะมีมูลค่าสูงเป็นหลักล้านบาททันที
จากการสอนสวนสองผู้ต้องหาชาวกัมพูชาผ่านล่าม ทราบว่าทั้งสองคนเดินทางด้วยเท้าข้ามเขตแดนเข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงในฝั่งไทยตามป่าชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ เพราะต้องการไม้พะยูงไปขายในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ที่มีพ่อค้าชาวกัมพูชามาตั้งโต๊ะรับซื้อแบบไม่จำกัดปริมาณ เพราะประเทศกัมพูชาไม่มีการตรวจจับและหวงห้าม เมื่อตัดไม้พะยูงในเขตไทยแล้วนำเข้าไปฝั่งกัมพูชาก็สามารถขายได้เงินทันที
ทั้งนี้ พวกตนพากันเข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงในฝั่งไทยไปขายต้องการหนีความลำบากจากปัญหาความแห้งแล้ง และยากจน ไร้การศึกษา ไม่มีอาชีพอะไร และอยู่อาศัยตามแนวชายแดนห่างไกลจากตัวเมืองจังหวัดอุดรมีชัยมาก อะไรที่พอหาเลี้ยงชีพได้จึงทำ ประกอบกับเห็นเพื่อนบ้านลักลอบตัดไม้พะยูงไปขายแล้วรวย เพราะสามารถสร้างรายได้เป็นอย่างดี มีความเป็นอยู่สุขสบาย จึงมาทำบ้าง แม้ที่ผ่านมาเคยถูกเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจไทยจับกุมคดีลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายมาแล้ว แต่ยังทำเพราะความอดอยาก จึงยอมติดคุกในไทยและไม่นานก็ถูกปล่อยตัวกลับประเทศ