ศรีสะเกษ - ผู้ว่าฯ ไทย-กัมพูชา ตกลงใช้อิมมิเกรชันการ์ดเข้าออกด่าน “ช่องสะงำ” ชายแดนด้าน จ.ศรีสะเกษ เริ่ม 1 เม.ย. เปิดประเดิมในวันสงกรานต์ปีใหม่ไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งขยายวันเปิดตลาดนัดขึ้นอีก 1 วัน รวมเป็น 3 วันต่อสัปดาห์
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (11 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมสะงำรีสอร์ท อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา นายยุทธนา วิริยะกิติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.อ.ณัฐ ศรีอินทร์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องใน จ.ศรีสะเกษ ได้เข้าร่วมประชุมพร้อมลงพื้นที่เพื่อจัดระเบียบจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ร่วมกับนายซอ ทาวี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย นายอุน จันดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระวิหาร และส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการเรื่องการผ่านแดนที่ยังไม่เอื้ออำนวยให้ประชาชนทั้งสองประเทศข้ามแดนเพื่อประกอบกิจกรรมให้เกิดประโยชน์ต่อการค้าและการท่องเที่ยวอย่างสูงสุด เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
นายยุทธนา วิริยะกิติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมร่วมกับประเทศกัมพูชาเป็นครั้งแรก หลังจากที่ได้เปิดประชาคมอาเซียนไป เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2558 เรื่องการปรับปรุงพัฒนาบริเวณทางเข้าจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ โดยจะใช้ระบบการวางตู้คอนเทนเนอร์ทำให้เกิดเป็นระเบียบและสวยงาม
ส่วนในเรื่องการค้าขายด้านชายแดนนั้น เดิมทีทาง จ.ศรีสะเกษ ได้เปิดให้มีตลาดนัดในวันพฤหัสบดีกับวันอาทิตย์ ซึ่งที่ประชุมได้คุยกันในขั้นทดลอง โดยให้มีการเปิดเพิ่มขึ้นมาอีก 1 วัน คือ วันอังคาร หากว่ามีคนไปซื้อสินค้ามากขึ้น ตนคิดว่าในอนาคตน่าจะเปิดได้ทั้ง 7 วัน
นายยุทธนากล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องบัตรผ่านแดนนั้น ทาง จ.ศรีสะเกษ ได้เน้นการใช้หนังสือผ่านแดนชั่วคราว หรือบอร์เดอร์พาส กับหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต โดยในที่ประชุมได้ตกลงกันว่าสำหรับผู้ที่จะเข้าไปค้าขายในบริเวณตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำ ใช้การเดินทางไปกลับ เช้า-เย็น จะใช้อิมมิเกรชันการ์ด โดยใชัระบบเทคโนโลยีมาช่วยแทนการใช้ตั๋วฉีก ซึ่งระบบอิมมิเกรชันการ์ดนี้จะเป็นตัวบันทึกข้อมูลเข้าออกว่ามีใครเข้ามาบ้าง ชื่ออะไรบ้าง แล้วออกไปกี่คนแล้ว เป็นการควบคุมบุคคลลักลอบเข้าเมืองได้เป็นอย่างดี
โดยทั้ง จ.ศรีสะเกษ ประเทศไทย และ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา จะได้ดำเนินการร่วมกันในแบบแปลนร่วมกัน และคาดว่าจะเร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2559 และจะใช้วันสงกรานต์ ปี 2559 หรือวันขึ้นปีใหม่ไทย และวันขึ้นปีใหม่ประเทศกัมพูชา มาทำพิธีเปิดร่วมกันต่อไป