ศรีสะเกษ - สินค้าโอทอป 3 จังหวัดอีสานใต้ทะลักเข้าไปขายเขมรหลังเปิดประตูการค้าสู่ AEC อย่างเป็นทางการ ในงานจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอทอป สานสัมพันธ์ 2 แผ่นดิน ที่ จ.พระวิหาร กัมพูชา
วันนี้ (7 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามกีฬากลางจังหวัดพระวิหาร ประเทศกัมพูชา นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ ผู้ว่าฯ อำนาจเจริญ นายวัฒนา พุฒิชาติ รองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ พร้อมด้วยตัวแทนจาก จ.ศรีสะเกษ จ.อุบลราชธานี จ.อำนาจเจริญ และ จ.ยโสธร นำสินค้าโอทอป อาหารดี อาหารเด่น สินค้าอินทรีย์ที่มีคุณภาพ เข้าร่วมงานแสดงสินค้า ซึ่งสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ ประสานงานนำสินค้าไปจำหน่ายให้แก่ประชาชนชาวกัมพูชา ตามโครงการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอทอป สานสัมพันธ์ 2 แผ่นดิน
โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมงานจำนวน 200 กลุ่ม แยกเป็นผู้ประกอบการของ จ.ศรีสะเกษ 100 กลุ่ม คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศไทยได้ประมาณ 30 ล้านบาท โดยมี จอมพล เมียส สุเพีย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นประธานในพิธีเปิดงาน และมี นายอุม มารา ผู้ว่าราชการจังหวัดพระวิหาร กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน
นายวัฒนา พุฒิชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ได้รับหมอบหมายจาก นายยุทธนา วิริยะกิตติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ให้นำสินค้าโอทอปไปร่วมจำหน่ายตามโครงการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอทอป สานสัมพันธ์ 2 แผ่นดิน ระหว่างวันที่ 7-11 ม.ค.นี้ ที่สนามกีฬากลางจังหวัดพระวิหาร ประเทศกัมพูชา
ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอทอปในประเทศเพื่อนบ้าน และส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านการค้า และความร่วมมือของจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา และเป็นการจำหน่ายสินค้าครั้งแรกนับตั้งแต่มีการเปิดประตูสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้เป็นการจัดงานร่วมกันเป็นปีที่ 6 ระหว่างจังหวัดพระวิหาร กัมปงธม และเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา กับกลุ่มจังหวัด 3 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของประเทศไทย และในโอกาสเดียวกันนี้เป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะครบรอบ 37 ปี ของประเทศกัมพูชาอีกด้วย
นายวัฒนากล่าวอีกว่า สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างจังหวัดศรีสะเกษกับจังหวัดพระวิหารนั้นมีความสัมพันธ์กันด้วยดีตลอดมา ทั้งด้านการศึกษา ด้านการลงทุน และด้านการท่องเที่ยว กิจกรรมการแสดงและจำหน่ายสินค้าเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
อีกประการหนึ่ง ด้านการศึกษาได้มีการบันทึกสรุปวาระการประชุมเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2557 ณ จังหวัดศรีสะเกษ โดยทั้งสองจังหวัดเห็นพ้องต้องกัน ส่งเสริมความร่วมมือด้านการส่งเสริมอาชีพระยะสั้น ให้แก่นักเรียนนักศึกษา และประชาชนชาวจังหวัดพระวิหาร ในสายประมง ปลูกพืช และซ่อมเครื่องยนต์การเกษตร
รวมทั้งการจัดให้มีการจับคู่การค้าโดยให้ผู้ประกอบการทั้งสองฝ่ายได้พบปะเจรจาการค้ากัน และสำหรับจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีการพัฒนาปรับปรุงระบบการบริการต่างๆ ให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้ข้ามไปมาหาสู่กันได้สะดวกรวดเร็วเพื่อประโยชน์ทางด้านการค้าและการท่องเที่ยว เพื่อรองรับการเปิดประตูสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบแล้ว