อุบลราชธานี - สนามบินนานาชาติ จ.อุบลราชธานี ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุด ตรวจตั้งแต่ก่อนเข้าเขตสนามบินทุกคน ทั้งผู้โดยสารและผู้มาส่ง ป้องกันก่อการร้ายข้ามชาติ พร้อมรับการเดินทางเทศกาลสงกรานต์ที่มีมากกว่าปกติ หลังจากนั้นจะพิจารณาจะคงใช้มาตรการนี้ต่อหรือไม่
ที่ท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดอุบลราชธานี มีกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ตั้งด่านบริเวณทางเข้าสนามบิน โดยขอตรวจใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของประชาชนที่ต้องการเดินทางเข้ามาในสนามบิน พร้อมจัดระเบียบการจอดรถรับส่ง ซึ่งเดิมให้จอดได้ในช่องทางใกล้ตัวอาคารผู้โดยสาร แต่ต่อไปให้หยุดรถเพื่อรับส่งและขนสัมภาระขึ้นลงแล้วให้นำรถไปจอดบริเวณลานจอดด้านนอก และเมื่อจะเข้ามาในตัวอาคารท่าอากาศยานซึ่งเปิดให้เข้าออกได้คนละทาง โดยในฝั่งขาเข้าผู้โดยสารและญาติต้องวางสัมภาระที่ติดตัวมาทุกชิ้นผ่านเครื่องเอกซเรย์ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ หลังจากนั้นประชาชนที่เป็นผู้โดยสารต้องนำกระเป๋าสัมภาระไปรับการตรวจอีกรอบ เพื่อรับการติดสติกเกอร์ ก่อนนำเข้าไปในห้องนั่งรอขึ้นเครื่องบิน ซึ่งจุดนี้ไม่อนุญาตให้ญาติติดตามเข้าไปภายใน และไม่ให้มีการเพิ่มสัมภาระนอกจากที่ผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่แล้ว
ส่วนช่องทางขาออกนั้น ให้ผู้โดยสารที่มาลงเครื่องออกไปทางด้านทิศใต้ตัวอาคาร ใกล้จุดให้บริการรถโดยสาร หากต้องการกลับเข้ามาในตัวอาคารต้องไปผ่านการเอกซเรย์ที่ประตูด้านทิศเหนือก่อนทุกครั้ง
บรรยากาศการตรวจเข้มวันแรก ผู้โดยสารที่ไม่เคยพบมาตรการเข้มงวดมีอาการตื่นตระหนกบ้าง รวมทั้งทำให้การจราจรบริเวณประตูทางเข้าติดขัดเป็นเวลาสั้นๆ แต่เมื่อได้รับคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ผู้โดยสารส่วนใหญ่เข้าใจและยินดีให้ความร่วมมือ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการทุกคน
นายกิติชัย สัจจลักษณ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยระดับ 3 นี้มีประกาศใช้มานานแล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่ได้นำมาใช้อย่างจริงจัง แต่หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดที่สนามบินกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดเรียกประชุมหน่วยงานทหาร ตำรวจ ร่วมกับการท่าอากาศยานนานาชาติ จึงมีความเห็นให้นำมาตรการรักษาความปลอดภัยดังกล่าวมาใช้ตรวจค้นป้องกันการก่อเหตุร้ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะมีผู้ใช้บริการมากกว่าปกติ และทำไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน หลังจากนั้นจะมีการพิจารณาสถานการณ์ทั่วไปอีกครั้ง อาจทำให้ผู้ใช้บริการไม่สะดวกเพราะต้องเพิ่มเวลาในการมารอขึ้นเครื่องบินรับการตรวจเข้มกับมาตรการดังกล่าว แต่จากการสอบผู้โดยสารส่วนใหญ่เห็นด้วย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่คุ้นชินกับการตรวจเข้มของสนามบินในประเทศของตนเอง เพื่อความปลอดภัยของทุกคนที่จะเดินทางผ่านช่องทางนี้