ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านราชสาส์น ร้องขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยซ่อมแซมถนนทางเข้าสู่หมู่บ้านที่พังเสียหายเป็นหลุมบ่อตลอดทางมาอย่างยาวนาน พร้อมวอนขอใช้ไฟฟ้า หลังจากกลายเป็นหมู่บ้านที่ตกสำรวจ ต้องอยู่ในความมืดมิดมานานถึงกว่า 20 ปี ทั้งที่เป็นจังหวัดที่มีโรงงานผลิตไฟฟ้าบางปะกงขนาดยักษ์ใหญ่ที่สุดของประเทศ
วันนี้ (30 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พบหมู่บ้านตกสำรวจจากการให้บริการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยมีชาวบ้านนับร้อยราย ทั้งประเภทบ้านเรือนอยู่อาศัย และผู้ที่เข้ามาประกอบอาชีพทางด้านเกษตรกรรมเลี้ยงสัตว์น้ำ เลี้ยงกุ้งเลี้ยงปลาที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ และต้องตกอยู่ในความมืดมิดมานานถึงกว่า 20 ปีแล้ว
ขณะที่เส้นทางการสัญจรเดินทางเข้าออกจากหมู่บ้านนั้นยังคงเป็นถนนลูกรัง และยังเกิดความเสียหายเป็นหลุมบ่อ ทำให้ชาวบ้านสัญจรด้วยความยากลำบากตลอดเส้นทางอีกด้วย
นายวีระ จุทาสา อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.5 ต.เมืองใหม่ อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ชาวบ้านในพื้นที่ 2 หมู่บ้าน คือ ม.5 และ หมู่ 7 ต.เมืองใหม่ อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นผู้อาศัยอยู่เลียบชายคลองชลประทาน ซอย 2 ต่างได้รับความเดือดร้อนกันมาอย่างยาวนาน
ทั้งถนนเส้นทางการสัญจรเข้าสู่หมู่บ้านที่ยังเป็นถนนลูกรัง มีพื้นผิวการจราจรเป็นหลุมเป็นบ่อตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนชาวบ้านจะสัญจรเข้าออกจากหมู่บ้านด้วยความยากลำบากมาก โดยเฉพาะเด็กๆ นักเรียนที่จะต้องเดินทางไปโรงเรียนนั้น เสื้อผ้าก็จะเปื้อนทั้งฝุ่นในช่วงฤดูแล้ง และเปื้อนโคลนในช่วงฤดูฝน
อีกทั้งยังเป็นหมู่บ้านที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้มาเป็นเวลานานถึงกว่า 20 ปีแล้ว โดยชาวบ้านนั้นต้องใช้ตะเกียง และเทียนไขในการจุดส่องสว่างในครัวเรือน ซึ่งอาจเป็นอันตรายหากมีลมพัดแรง และเทียน หรือตะเกียงล้มดับไปจนมองไม่เห็น หรืออาจเกิดการลุกไหม้บ้านเรือน
ที่ผ่านมา ได้เคยไปร้องขอต่อทางสำนักงานกำกับกิจการพลังงานประจำเขต 8 จ.ชลบุรี มาแล้วหลายครั้ง และรับปากว่าจะเข้ามาดำเนินการให้ชาวบ้านได้มีไฟฟ้าใช้ในช่วงต้นปี 2559 แต่จนถึงวันนี้ ผ่านมา 3 เดือนแล้วก็ยังไม่เห็นว่าจะมีการเข้ามาดำเนินการอะไรให้แก่ชาวบ้านเลย
ส่วนการซ่อมแซมถนนขนาดความยาวเกือบ 4 กม.นั้น ชาวบ้านได้เคยร้องขอไปยังทางชลประทานผู้ใช้น้ำให้ช่วยซ่อมแซมให้พื้นผิวการจราจรอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้สะดวก แต่ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า ยังไม่มีงบประมาณที่จะนำมาซ่อมแซมให้อีก ชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้านจึงยังคงได้รับความเดือดร้อนจากความยากลำบาก และเฝ้ารอคอยหน่วยงานภาครัฐต่อไป
ที่ผ่านมา ในช่วงฤดูฝนนั้นถนนสายนี้มีพื้นผิวการจราจรที่เละ มีแต่น้ำขังสภาพเปรียบเสมือนเบ้าขนมครก เพราะมีแต่หลุม และมีน้ำเต็มไปหมด การสัญจรผ่านจึงลำบาก และในหน้าแล้งก็มีแต่ฝุ่นละอองสีแดงปลิวติดตามเสื้อผ้า เคยร้องขอไปทาง อบจ.ฉะเชิงเทรา แล้ว แต่ทาง อบจ.บอกว่าถนนเป็นของกรมชลประทาน ซึ่งอยู่คนละหน่วยงานกันไม่สามารถที่จะจัดสรรงบประมาณมาช่วยซ่อมแซมให้ชาวบ้านได้
ด้าน นางจินดา วรประสพ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 ม.5 ต.เมืองใหม่ กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนถนนสายนี้ก็มีแต่น้ำท่วมขังในหลุม เดินทางออกจากหมู่บ้านไม่รู้ว่าจะหลบไปทางไหนได้จึงจะพ้นหลุม เคยร้องขอไปหลายหน่วยงานก็มาทำได้เพียงแค่เอารถแทรกเตอร์มาช่วยเกรดปราดหน้าดินให้เรียบขึ้นบ้างได้เท่านั้น ชาวบ้านจึงไม่รู้ว่าจะไปพึ่งหน่วยงานไหนจึงจะแก้ไขได้
ขณะที่ นายติ่ง วรรณโมลี รองนายก อบต.เมืองใหม่ กล่าวชี้แจงว่า ถนนสายนี้เป็นของกรมชลประทาน ซอยสองขวา คลองท่าลาด มีปัญหาเรื่องการสัญจร เพราะเป็นถนนลูกรัง และเป็นหลุมเป็นบ่อ หน่วยงานที่รับผิดชอบก็ไม่มีงบประมาณที่จะมาแก้ไข
ส่วนเรื่องชาวบ้านในหมู่ที่ 5 ไม่มีไฟฟ้าใช้นั้น ทาง อบต.ได้เตรียมที่จะจัดทำงบประมาณในปี 2559 ให้ แต่ถ้าหากจะมีหน่วยงานอื่นมาช่วยสนับสนุนก็จะสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะหน่วยงานทางการไฟฟ้า เนื่องจากทาง อบต. มีงบประมาณจำกัด และยังต้องดูแลประชาชนอีกทั้ง 9 หมู่บ้าน
โดยปัญหาที่ประชาชนไม่มีไฟฟ้าใช้มานานถึงเกือบ 20 ปี นั้น เนื่องจากสภาพพื้นที่ของหมู่บ้านหมู่ที่ 5 นั้น มีสภาพของบ้านเรือนที่อยู่ห่างไกลกัน จึงทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสูง จึงทำให้งบประมาณในส่วนของ อบต.เองนั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวบ้าน ซึ่งหากหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงสามารถดำเนินการได้ในส่วนนี้ก็จะรวดเร็วยิ่งขึ้น
โดย นางสมใจ หอมจันทร์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 ม.5 ต.เมืองใหม่ อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านผู้ไม่มีไฟฟ้าใช้ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้พยายามเดินเรื่องขอใช้ไฟฟ้ามานานแล้วเป็นเวลานับสิบปี ตั้งแต่ยุคผู้ใหญ่บ้านคนเก่า จนมาถึงคนใหม่ยุคปัจจุบันก็ยังไม่ได้ใช้ไฟฟ้า
เมื่อเห็นทางหน่วยงานที่รับผิดชอบเริ่มตอบกลับเป็นหนังสือมาก่อนหน้านี้ ก็ดีใจ และมีความหวังมากขึ้น แต่มาถึงวันนี้ก็ผ่านมา 3 เดือนตามกำหนดแล้ว ไฟฟ้าก็ยังไม่มา ลูกหลานก็ยังไม่ได้ใช้ไฟฟ้าเหมือนเดิม ก็อยากให้ลูกๆ หลานๆ ได้ใช้ไฟฟ้ากันอย่างเร็ว จะมีอะไรที่เป็นความสุขเท่ากับที่จะได้ใช้ไฟฟ้าในเวลานี้ก็คงไม่มีอีกแล้ว เพราะว่าชาวบ้านยังคงตั้งตารอคอยกันอยู่