xs
xsm
sm
md
lg

เร่งปราบค้ามนุษย์อีสานใต้ พบปัญหาใหญ่ค้าประเวณีต่างด้าวเกลื่อนชายแดน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.อดุลย์  แสงสิงแก้ว รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- รมว.การพัฒนาสังคมฯ ลุยโคราช เร่งจัดการปัญหาค้ามนุษย์ ย้ำให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายเต็มที่ ชี้อีสานใต้พบส่วนใหญ่มีปัญหาการค้าประเวณีของต่างด้าวในพื้นที่จังหวัดแนวชายแดน มั่นใจจัดอันดับค้ามนุษย์ของไทยดีขึ้นจากมาตรการเอาจริงของรัฐบาล พร้อมเดินหน้าจัดระเบียบขอทานทั่วประเทศ ยอมรับยากทำให้หมด

วันนี้ (28 มี.ค.) ที่ห้องประชุมวีวัน 3 โรงแรมวีวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานและประเมินการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ให้แก่ข้าราชการตำรวจในพื้นที่ 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง สังกัดตำรวจภูธรภาค 3

ทั้งนี้เพื่อประเมินสถานการณ์ปัญหาการค้ามนุษย์ ตลอดจนบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการค้ามนุษย์ในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง ทำความเข้าใจปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานของหน่วยงานรับผิดชอบด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ เพื่อบูรณาการแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และสร้างเครือข่ายหน่วยงานรับผิดชอบด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในพื้นที่อีสานตอนล่าง

พล.ต.อ.อุดลย์เปิดเผยว่า วันนี้ได้มอบนโยบายและเน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการบังคับใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีและการขยายผลเครือข่ายต่างๆ อย่างเข้มข้น สำหรับสถานการณ์โดยรวมในพื้นที่อีสานล่างนั้นไม่น่าเป็นห่วงมากนัก ส่วนใหญ่พบปัญหาการค้าประเวณีของต่างด้าวและพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงจะอยู่จังหวัดแถบแนวชายแดนเป็นหลักเพราะมีการเข้าออกได้ง่ายขึ้น

ส่วนการจัดอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ของประเทศไทยอยู่ระดับ เทียร์ 3 (Tier 3) ในปีที่แล้วนั้น สำหรับปีนี้ได้ดำเนินการปราบปรามจับกุมเครือข่ายใหญ่ๆ เป็นจำนวนมาก มีการปรับปรุงกฎหมายเพิ่มช่องทางในการฟ้องร้อง โดยเฉพาะเรื่องการคัดกรองการคุ้มครองพยานได้เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น โครงสร้างการบริหารเรามีความเข้มข้นมากขึ้น และมีหน่วยงานรับผิดชอบที่ชัดเจนมีการบูรณาการร่วมกันเป็นอย่างดี เชื่อว่าอันดับน่าจะดีขึ้น

พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวอีกว่า ในการจัดระเบียบขอทานทั่วประเทศนั้นได้เดินหน้ามาอย่างต่อเนื่องครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 มีการพิสูจน์ทราบไปกว่า 2,700 ราย เป็นต่างด้าวประมาณ 800 ราย ซึ่งผลักดันกลับประเทศไป ส่วนที่เป็นคนไทยได้มีการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กลุ่มนี้ ยอมรับว่าปัญหาลักษณะนี้จะขจัดให้หมดไปคงยากเพราะเป็นปัญหาสังคมและเป็นเรื่องของความเชื่อ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรจึงจะหมดไป




กำลังโหลดความคิดเห็น