นครพนม - ประจาน! ตำรวจทั้งภาค 4 จนท.กรมการปกครอง บุกทลายคาราโอเกะกลางเมืองนครพนม ช่วยเหลือ 8 หญิงลาวเหยื่อค้ามนุษย์ หลังได้รับร้องเรียนลอบค้ากามสาวลาว ซ้ำกลางวันบังคับให้ทำสวนแตงโม-ร้านก๋วยเตี๋ยว
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 22.30 น.คืนที่ผ่านมา (25 มี.ค.) ที่จังหวัดนครพนม ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย นำโดย นายมานะ สิมมา ผอ.ส่วนการสอบสวนคดีอาญา นายณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ส่วนกำกับและตรวจสอบ สำนักการสอบสวนและนิติกร กรมการปกครอง นายไพฑูรย์ รักษ์ประเทศ รองผู้ว่าฯ นครพนม นายประมวล มุ่งมาตร รองผู้ว่าฯ นครพนม และนายเอกราช มณีกรรณ์ นายอำเภอเมืองนครพนม พร้อมกำลังกว่า 30 นาย บุกเข้าตรวจค้นต้นน้ำคาราโอเกะ เลขที่ 216/42-43 ถนนนิตโย ภายในตลาด ป.เป็ด อ.เมือง จ.นครพนม
ทันทีที่ไปถึงเจ้าหน้าที่ได้จู่โจมจับกุมหญิงค้าบริการสัญชาติลาว ภายในร้านดังกล่าวเป็นตึก 3 ชั้น 2 คูหา ซึ่งเปิดเป็นคาราโอเกะบังหน้า แต่เบื้องหลังค้ากามประเวณี และค้ามนุษย์ พบหญิงชาวลาว เมืองแขวงคำม่วน และเมืองไชยบุรี อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 3 ราย และอายุระหว่าง 19-21 ปี อีก 5 ราย รวมทั้งสิ้น 8 ราย จึงคัดแยกก่อนส่งให้นักสังคมสงเคราะห์ร่วมสอบปากคำเบื้องต้น พบนายจิตร นามกัน วัย 43 ปี ชาว อ.สะตึกจ.บุรีรัมย์ ยอมรับว่าเป็นผู้ควบคุมดูแลร้านคาราโอเกะดังกล่าว
จากการตรวจค้นโดยละเอียดพบถุงยางอนามัย 3 กล่องใหญ่ จำนวนกว่า 500 ชิ้น ถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว 3 ชิ้น โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง งาช้าง 1 คู่ พระเครื่องที่แกะด้วยงาช้างกว่า 100 องค์ ชิปสังกะสีสีแดง และสีเหลืองกว่า 500 อัน ซึ่งใช้แทนเงินสดให้หญิงสาวที่มาค้าประเวณีเก็บไว้หลังเสร็จกิจกับผู้มาใช้บริการค้ากาม พร้อมเงินล่อซื้อ จำนวน 2,600 บาท และเบียร์ที่เปิดแล้ว 2 ขวด นามบัตร เบอร์โทร.เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อีกชุดได้ตรวจค้นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เลขที่ 216/50 ห่างร้านคาราโอเกะต้นน้ำ 20 เมตร พบว่า เป็นบ้านของนายผ่อง จารุนัย อายุ 60 ปี เจ้าของร้านคาราโอเกะ อยู่เลขที่ 37 หมู่ 6 ตงนาราชควาย อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเช่าตึกไว้ 1 คูหา ไว้ให้หญิงชาวลาวพักอาศัยแต่ไม่พบตัว หน้าอาคารพบรถกระบะโตโยต้าวีโก้ 4 ประตู สีทอง ทะเบียน กค 4345 นครพนม ตรวจค้นคอนโซลหน้ารถพบอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 6 นัด จึงยึดไว้เพื่อตรวจสอบ ด้านหน้าตึกยังพบกล้องวงจรปิดไว้ตรวจดูความเคลื่อนไหวภายในร้านต้นน้ำคาราโอเกะ ซึ่งอยู่ห่างกันแค่ 10 คูหาด้วย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบว่ามีป้ายข้อความเป็นภาษาลาวติดไว้ภายในร้านระบุว่า “ถ้ามาช้ากว่าเวลา 18.30 น. จะปรับนาทีละ 100 บาท และติดหน้าห้องน้ำชั้นล่างระบุว่า “กระดาษเช็ดแล้วกรุณาเอาไปทิ้ง ถ้าไม่ทิ้งจะเสียแผ่นละ 500 บาท หรือถ้าเช็ดแล้วไม่ทิ้งก็ให้กิน”
หลังสอบปากคำเหยื่อสาวชาวลาวเบื้องต้นเสร็จ เจ้าหน้าที่อีกชุดได้นำตัวหญิงชาวลาว 4 คน ไปสวนแตงโมที่ อ.ปลาปาก ของ นายผ่อง เจ้าของร้าน หลังเหยื่อค้ากาม 4 รายระบุว่า จะใช้แรงงานทำสวนกลางวัน ส่วนกลางคืนให้มาขายบริการทางเพศ ซึ่งร้านจะปิดในเวลา 01.30 น. ส่วนหญิงลาวที่เหลือบางคนจะนำไปใช้แรงงานภาคกลางวันที่ร้านก๋วยเตี๋ยว
นายมานะ สิมมา ผอ.ส่วนการสอบสวนคดีอาญา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้เบาะแสจากเอ็นจีโอให้ข้อมูลว่า ร้านคาราโอเกะดังกล่าวเปิดบังหน้า แต่เบื้องหลังค้าประเวณี และค้ามนุษย์ จึงประสานกับทางจังหวัดโดยใช้เวลานาน 1 เดือน เพื่อตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัด จึงวางแผนเข้าจับกุมดังกล่าว จากการสอบปากคำหญิงชาวลาวระบุว่า จะเดินทางมาทางเรือ พบมีพาสปอร์ตแค่ 1 ราย ที่เหลือ 7 ราย พบว่า เป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
ผอ.ส่วนการสอบสวนคดีอาญา ระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนเชิงลึกว่าเจ้าของสถานบริการแห่งนี้ว่าบังคับใช้แรงงานเด็กสัญชาติชาวต่ำกว่า 18 ปี โดยให้นอนตอนตี 2 ส่วนช่วงเย็นให้มาทำงานในคาราโอเกะ โดยบางรายอาจถูกบังคับไปทำสวนแตงโม และขายก๋วยเตี๋ยวเพื่อแลกข้าว ส่วนชิปสีเหลือง และสีแดงเจ้าของคาราโอเกะแห่งนี้จะใช้แทนเงินสดหลังเด็กร่วมประเวณีกับลูกค้าเสร็จจะได้ค่าตัว 1,000 บาท ซึ่งได้แค่ชิปเป็นค่าตัว 1 อัน ตีเป็นเงิน 500 บาท จะแลกเป็นเงินได้ก็ต่อเมื่อจะกลับประเทศแล้วเท่านั้น
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ และเป็นธุระจัดหาเพื่อการค้าประเวณี ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีเด็กนั่งดริงก์อยู่ด้วย จึงนำตัวส่งไปฟื้นฟูสภาพจิตใจที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.นครพนม ก่อนนำตัวส่งไปพักฟื้นที่บ้านนารีสวัสดิ์ จ.กาฬสินธุ์ อีกรอบ ส่วนนายผ่อง เจ้าของร้านคาราโอเกะต้นน้ำจะได้เรียกตัวมาสอบสวนอีกครั้งเพื่อแจ้งข้อหาให้ทราบดังกล่าว