ลำปาง - เจ้าของร้านอาหารเมืองรถม้าทนไม่ไหว ร่อนหนังสือร้องเรียนทั้งผู้ว่าฯ ทหาร สมาคมสื่อ โดนคนอ้างเป็นนักข่าวพาพวกเบ่งกินฟรีเป็นประจำ พบพยายามตามคณะผู้ใหญ่ตรวจราชการ พร้อมถ่ายรูปโชว์ผ่านเฟซบุ๊ก สร้างเครดิตให้ตัวเองเป็นประจำ
วันนี้ (16 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการร้านอาหารในจังหวัดลำปาง ได้ส่งหนังสือร้องเรียนและขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง, ผบ.มทบ.32, สื่อหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น, สมาคมผู้สื่อข่าวนครลำปาง เรียกร้องให้ตรวจสอบความประพฤติของผู้ที่อ้างตัวเองเป็นนักข่าวสังกัด นสพ.ท้องถิ่นฉบับหนึ่ง พาพวก 5-10 คนเบ่งกินฟรีเป็นประจำ
หนังสือร้องเรียนระบุว่า ทุกครั้งที่คนกลุ่มนี้มา นอกจากจะไม่ยอมจ่ายเงินแล้ว ยังขู่ว่าหากทางร้านมีอะไรที่ผิดปกติก็จะเรียกตำรวจมาดำเนินการทันทีอีกด้วย และสิ่งที่ทางร้านรับไม่ได้คือ คนกลุ่มนี้มักจะถือวิสาสะเข้าไปถ่ายรูปผู้หลักผู้ใหญ่ที่มาใช้บริการที่ร้านเป็นการส่วนตัว และบางครั้งก็นำไปลงใน นสพ.ท้องถิ่นฉบับหนึ่ง ซึ่งภาพเหล่านั้นผู้ที่มาใช้บริการไม่ได้ยินยอมให้ถ่าย ตนเองซึ่งเป็นเจ้าของร้านก็มักจะถูกตำหนิมาตลอด ทำให้ทางร้านได้รับผลกระทบทั้งๆ ที่ทำมาหากินด้วยความสุจริตแต่กลับถูกเอารัดเอาเปรียบ
จากการสอบถามผู้ที่รู้จักมักคุ้นกับผู้ที่ถูกกล่าวหาตามหนังสือร้องเรียน ทราบว่าบุคคลกลุ่มนี้มักไปนั่งดื่มกินที่ร้านอาหารย่านใกล้สถานศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดลำปาง และร้านอาหารอีกหลายร้าน
เจ้าของร้านอาหารรายหนึ่งที่เคยถูกกลุ่มคนดังกล่าวเบ่งกินฟรีด้วยได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว โดยขอสงวนชื่อตัวเอง และร้านว่า ที่ผ่านมาตนลงทุนกับร้านอาหารเป็นเงินจำนวนมาก และทำมาหากินอย่างสุจริต คนคนนี้ก็มากินฟรีตลอด มาคนเดียวยังไม่พอพาเพื่อนฝูงมากินอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ ซึ่งตนเองก็ไม่อยากจะมีเรื่องมีราวอะไรกับสื่อ ซึ่งคิดว่าร้านอื่นที่โดนก็คงจะโดนในลักษณะเดียวกัน
นอกจากนี้ ทางเจ้าของร้านยังได้โชว์ข้อความของบุคคลที่ถูกกล่าวถึงในหนังสือร้องเรียนที่ส่งมาทางไลน์ แจ้งให้เจ้าของร้านดูแลคนที่ตนเองจะพามาให้ผู้สื่อข่าวได้ดู โดยพบว่าบุคคลที่ถูกร้องเรียนไม่ได้เป็นนักข่าว แต่ที่ผ่านมาก็อยู่ในสายสื่อมวลชน ซึ่งบุคคลคนนี้มักจะไปร่วมงานที่จังหวัด หรือหน่วยงานต่างๆ จัดขึ้น รวมถึงร่วมคณะลงพื้นที่ของผู้หลักผู้ใหญ่บ่อยครั้ง และทุกครั้งก็จะเข้าไปถ่ายรูปกับผู้หลักผู้ใหญ่เพื่อนำไปโชว์กับบุคคลภายนอก เพื่อจะบอกว่าตัวเองติดตามผู้ใหญ่คนนั้นคนนี้ และนำภาพเหล่านั้นมาลงเฟซบุ๊กเพื่อสร้างเครดิตให้ตัวเองเสมอมา
เจ้าของร้านรายนี้บอกเพิ่มเติมอีกว่า พฤติการณ์ของบุคคลคนนี้มักจะบอกกับคนอื่นๆ ที่ตัวเองชวนมาว่าตนเองเลี้ยง ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าคนที่มาด้วยนั้นจะทราบหรือไม่ว่าบุคคลคนนี้ไม่ได้จ่ายเงิน แต่มากินฟรีตลอด และต่อไปนี้คงยอมไม่ได้แล้ว เพราะปัจจุบันการทำมาหากินค่อนข้างลำบากเศรษฐกิจฝืดเคือง ยิ่งเป็นวันธรรมดายิ่งไปกันใหญ่ แทบจะไม่มีคนมาใช้บริการ แต่ต้นทุนค่าเด็กเสิร์ฟ พนักงานต้อนรับ กุ๊ก นักดนตรี ฯลฯ ต้องจ่ายประจำทุกวัน
