ลำปาง - ผู้ว่าฯ เมืองรถม้า นำทายาทเจ้านายฝ่ายเหนือ เชื้อเจ้าเจ็ดตนนั่งเสลี่ยงไม้ไผ่ พร้อมขบวนเครื่องสักการะจาก 13 อำเภอทั่วจังหวัด ร่วมทำพิธีถวายพวงมาลา “พ่อเจ้าทิพย์ช้าง” อดีตเจ้าผู้ครองนครลำปางอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมเตรียมจัดแสดงแสงสีเสียงชุด “สืบสานตำนานพ่อเจ้าทิพย์ช้างวีรบุรุษเขลางค์ล้านนา” 2 วันซ้อน
วันนี้ (14 ก.พ.) นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดลำปาง ทหาร ทายาทของเจ้านายฝ่ายเหนือ เชื้อเจ้าเจ็ดตน และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พ่อค้า ประชาชนชาวลำปางได้ทำพิธีถวายสักการะ และพวงมาลาอนุสาวรีย์เจ้าพระยาสุลวลือไชยสงคราม หรือพ่อเจ้าทิพย์ช้าง อดีตเจ้าผู้ครองนครลำปาง
โดยตั้งขบวนแห่เครื่องสักการะที่มีทายาทเจ้านายฝ่ายเหนือได้นั่งบนเสลี่ยงไม้ไผ่ และตามด้วยขบวนเครื่องสักการะอีก 13 ขบวน จาก 13 อำเภอของจังหวัดลำปาง ที่มีนายอำเภอ และผู้แทน นั่งบนรถม้านำหน้าขบวนเข้าสู่บริเวณภายในพิธี คือ หน้าอนุสาวรีย์เจ้าพระยาสุลวลือไชยสงคราม ก่อนที่จะมีการประกอบพิธีทักษิณานุประทานบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายพ่อเจ้าทิพย์ช้าง ซึ่งผู้ว่าฯ ได้เป็นประธานจุดธุปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และจุดเครื่องทองน้อย จากนั้นจึงมีการรำถวายพ่อเจ้าทิพย์ช้าง
หลังจากนั้น ประธานในพิธีได้นำคณะวางพวงมาลาชุดพิเศษ และกล่าวสดุดีเจ้าพระยาสุลวลือไชยสงคราม ก่อนที่คณะจะปักธูปเครื่องสักการะ และจุดพลุถวายพระเกียรติ ปิดท้ายด้วยพิธีสดุดีวีรชนผู้กล้าเขลางค์นคร เป็นอันเสร็จพิธี
ทั้งนี้ ตามประวัติศาสตร์ หลังจากที่พ่อเจ้าทิพย์ช้าง ทรงขับไล่ปราบกองทัพพม่าแตกพ่ายไปในครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย พระมหาเถรวัด พระแก้วชมพู พร้อมด้วยประชาราษฎร์ชาวเมืองนครลำปาง (เมืองลคอร) ได้พร้อมใจกันตั้งพิธีสรงน้ำมุรธาภิเษกให้หนานทิพย์ช้าง ขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนครลำปาง ใน พ.ศ.2275 (จุลศักราช 1094) มีนามว่า เจ้าพระยาสุลวลือชัยสงคราม (ทิพย์ช้าง) ครองเมืองลำปางได้นาน 27 ปี พอปี พ.ศ.2302 (จุลศักราช 1121) ก็ถึงแก่ทิวงคต รวมอายุได้ 85 ปี มีโอรสธิดากับเจ้าแม่พิมพา (ปิมปา) รวมได้ 6 องค์
ทุกวันที่ 15 กุมภาพันธุ์ทุกปี จังหวัดลำปาง และเจ้านายฝ่ายเหนือผู้สืบสานเชื้อเจ้าเจ็ดตน ข้าราชการทหาร ตำรวจ ประชาชนชาวจังหวัดลำปาง และใกล้เคียงก็จะร่วมกันจัดกิจกรรมขึ้นทุกปี เพื่อเป็นการระลึกถึงพระองค์ท่าน และเพื่อให้ลูกหลานได้รับทราบถึงพระประวัติที่มีคุณอนันต์ต่อแผ่นดิน
แต่ในปีนี้วันที่ 15 ก.พ. ตรงกับวันพระใหญ่ จึงได้มีการเลื่อนมาจัดงานวันนี้ (14 ก.พ.) โดยมีการจัดพิธียิ่งใหญ่กว่าทุกปี และในช่วงเย็นทั้ง 2 วัน คือ 14-15 ก.พ. จะมีการแสดงแสงสีเสียง ชุด “สืบสานตำนานพ่อเจ้าทิพย์ช้างวีรบุรุษเขลางค์ล้านนา” ซึ่งรอบงานมีการจำหน่ายสินค้า และอาหารพื้นเมืองตลอดงาน ณ อนุสาวรีย์เจ้าพระยาสุลวลือไชยสงคราม (พ่อเจ้าทิพย์ช้าง)