xs
xsm
sm
md
lg

ปศุสัตว์แปดริ้วแจงสภาพภายนอกของสุนัขหลวงตาทียังสมบูรณ์ดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - ปศุสัตว์แปดริ้ว แจงสภาพภายนอกสุนัขลากเข็นของหลวงตาที ยังสมบูรณ์ดี ระบุมีเมือกเป็นสีชมพูทุกตัว เสียงหัวใจปกติ สภาพจิตร่าเริง แต่สุดพิลึกกลับส่งมอบไปให้แก่ฝ่ายผู้แจ้งความเอาผิดดำเนินคดีหลวงตานำกลับไปเลี้ยงดูแล อ้างเหตุสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดไร้สถานที่รองรับ

วันนี้ (16 มี.ค.) นายสัตวแพทย์สาโรจ งามขำ ปศุสัตว์จังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวถึงสุนัขสายพันธุ์ไทยผสมบางแก้ว ที่ถูกหลวงตาหนูที ทินราช (สุตธมฺโม) อายุ 67 ปี นำมาใช้ลากจูงสัมภาระในระหว่างออกบิณฑบาต จนมาถูก น.ส.ชื่นใจ บูรชาธรรม สาวใหญ่วัย 48 ปี สมาชิกเฟซบุ๊กของกลุ่มคนรักหมา แจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ในข้อกล่าวหาทารุณกรรมสัตว์ ว่า สุนัขตัวดังกล่าวเป็นสุนัขเพศผู้ลูกผสม สีขาวน้ำตาลอ่อนปนดำ น้ำหนักประมาณ 15-20 กก. ลักษณะภายนอกยังปกติดี มีเยื่อเมือกทั่วไปเป็นสีชมพู มีสะเก็ดแผลที่บริเวณหลังบ้างเล็กน้อย เมื่อฟังเสียงหัวใจ และปอดแล้วก็ยังปกติดี

โดยมีเพียงสุนัขเพศเมีย ซึ่งเป็นสุนัขลูกผสมสีดำ น้ำหนักประมาณ 10 กก. เพียงตัวเดียวที่มีสภาพขาหลังลีบ รับน้ำหนักตัวไม่ได้ แต่สภาพภายนอกก็ยังสมบูรณ์ร่าเริงดี มีเมือกเป็นสีชมพู เสียงหัวใจปกติ ส่วนสุนัขอีกตัวเป็นสุนัขเพศผู้ สายพันธุ์โกลเด้น รีซีฟเวอร์ สีน้ำตาลอ่อน น้ำหนักประมาณ 15 กก. สภาพภายนอกผอม และมีอาการซึม แต่ยังมีเยื่อเมือกสีชมพู มีขนร่วงบ้างเป็นบางจุด มีตุ่มแดง และสะเก็ดแผลที่ผิวหนังทั่วไป ที่กระจกตาทั้งสองข้างขุ่นมัวเล็กน้อย เนื่องจากสุนัขน่าจะมีอายุมากแล้ว จึงทำให้กระจกตานั้นก็มีโอกาสที่จะเป็นฝ้าได้ ส่วนการฟังเสียงหัวใจ และปอดยังปกติดี

หลังทำการตรวจทางกายวิภาคทั่วไปแล้ว ก็จึงยังถือว่าสุนัขยังอยู่ในสภาพที่ปกติ เนื่องจากเราไม่มีเครื่องมือ และอุปกรณ์ในการตรวจพิเศษ ส่วนการนำสุนัขไปใช้ลากจูงเพื่อใช้งานนั้น ไม่มีข้อมูลว่าสุนัขแต่ละตัวจะสามารถรับน้ำหนักได้กี่กิโลกรัม แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องของความเหมาะสมมากกว่า เพราะสุนัขนั้นถือเป็นสัตว์เลี้ยง ไม่ใช่สัตว์ใช้แรงงาน

ส่วนในต่างประเทศที่เคยพบว่ามีการนำไปใช้ลากล้อเลื่อนนั้นเป็นไปในเรื่องของทางการกีฬามากกว่า สำหรับการเลี้ยงดูสุนัขนั้น ผู้เลี้ยงต้องให้การดูแลด้านสุขภาพให้แข็งแรงโดยตลอด และต้องให้ความรักแก่สุนัข แต่หากเอาไปทำอย่างอื่นนั้นต้องมาดูกันอีกครั้งว่าการกระทำนั้นเข้าข่ายว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์หรือไม่

ในส่วนของสุนัขที่ชื่อ สมหวัง ตัวเก่าของหลวงตาที่มีการนำมาอ้างว่าได้ถูกนำมาใช้งานจนสะโพกหลุดนั้น ไม่สามารถตอบได้ว่ามีสาเหตุที่เกี่ยวข้องต่อการนำมาใช้งานจริงหรือไม่ สำหรับสาเหตุที่ต้องมอบสุนัขทั้ง 3 ตัว ไปให้แก่ น.ส.ชื่นใจ บูรชาธรรม ผู้แจ้งความดำเนินคดีต่อหลวงตา นำไปดูแลนั้น เนื่องจากทางสำนักงานเห็นว่าเขามีความพร้อมที่จะดูแลสุนัขทั้ง 3 ตัวได้

ทั้งในเรื่องของอาหาร ที่อยู่อาศัย และการเลี้ยงดูมากกว่าทางสำนักงานปศุสัตว์ฉะเชิงเทรา ซึ่งไม่มีสถานที่รองรับ จึงไม่มีความพร้อมที่จะดูแลสุนัข โดยขณะนี้ได้มีการทำบันทึกข้อตกลงระหว่างทางสำนักงานฯ กับทาง น.ส.ชื่นใจ ไว้แล้ว โดยทาง น.ส.ชื่นใจ จะเป็นผู้นำไปเลี้ยงดูยังที่บ้านพัก ตั้งอยู่เลขที่ 41/2 ถ.พระยาศรีสุนทร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา และจะเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลสุนัขทั้ง 3 ตัวเอง ทั้งค่าอาหาร และค่าการตรวจรักษาสุขภาพสุนัขด้วย

“หลังคดีสิ้นสุดทางฝ่ายของผู้ที่นำไปดูแลก็จะต้องยินยอมที่จะคืนสุนัขให้แก่ทางสำนักงานปศุสัตว์ฉะเชิงเทราต่อไป และในระหว่างที่สุนัขยังอยู่ในความดูแลของ น.ส.ชื่นใจ นั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถที่จะเข้าไปติดตามดูแล ตรวจสอบ หรือตรวจเยี่ยมได้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นข้อตกลงกันที่ทำขึ้น” นายสัตวแพทย์สาโรจ กล่าว



กำลังโหลดความคิดเห็น