ฉะเชิงเทรา - พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ที่เพิ่งประกาศใช้ไปเมื่อปลายปีก่อน ทั้งพระทั้งคนยื้อแย่งหมาด่ากันกระเจิง โดยกลุ่มคนรักสุนัขพบเห็นพระพาหมาออกมาเดินบิณฑบาตช่วยลากรถเข็นกับข้าวรับบาตร อ้างทรมานสัตว์ บุกเข้าแจ้งความตำรวจให้เอาผิดพระสงฆ์ ด้าน จนท.เตรียมแจ้งขอกล่าวหา พร้อมยึดของกลางเอาไว้ก่อนปล่อยตัวชั่วคราวไป
วันนี้ (14 มี.ค.) ร.ต.ท.เศวรัตน์ ปุริสาย ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่า มีพระสงฆ์นำสุนัขออกมาเดินลากจูงบิณฑบาตในบริเวณตลาดด้านหน้าวัดโสธรวราราม วรวิหาร อ.เมืองฉะเชิงเทรา โดยขอให้ไปทำการตรวจสอบ โดยผู้แจ้งประสงค์ที่จะเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทรมานสัตว์ และขอให้ทำการตรวจสอบว่าเป็นพระสงฆ์จริงหรือไม่
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจวัดโสธร และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเขตงานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เข้าทำการตรวจสอบ พบพระหนูที ทินราช (ฉายา สุตธมฺโม) อายุ 67 ปี พรรษา 5 บวชให้โดยพระอุปัชฌาย์ (พระครูวุฒิปัญญาภรณ์) ใน จ.อุดรธานี ที่วัดอาจสุขวิหาร และจำพรรษาครั้งแรกที่วัดจันทราทิพย์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี กำลังนำสุนัขขึ้นรถที่บริเวณลานจอดรถริมน้ำวัดโสธรฯ เพื่อเดินทางต่อไป ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนิมนต์เชิญตัวมาทำการสอบสวนยังที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา
โดยมี น.ส.ชื่นใจ บูรชาธรรม อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/2 ถ.พระยาศรีสุนทร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางมาแสดงตนเพื่อขอเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน โดยกล่าวหาว่า พระหนูที เป็นผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ (27 ธ.ค.57) ด้วยการทรมานสัตว์ จากสาเหตุที่ได้ใช้ให้สุนัขทำการลากจูงรถเข็นบิณฑบาต พร้อมได้ร้องขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการยึดของกลางในการกระทำความผิดครั้งนี้ด้วย คือ สุนัขสายพันธุ์ไทยผสมบางแก้ว ขนาดเต็มวัย 1 ตัว พร้อมด้วยลูกสุนัขวัยประมาณ 7 เดือน 1 ตัว และ 4 เดือน 1 ตัว
ขณะเดียวกัน นอกจากจะมี น.ส.ชื่นใจ ที่ได้เดินทางเข้ามาทำการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนแล้ว ยังมี น.ส.สุชาดา ชนะวรรณ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/1 ถ.สรรประศาสตร์ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา สมาชิกในกลุ่มเฟซบุ๊กของคนรักสุนัข พร้อมพวกอีกจำนวน 3 คน ได้เดินทางมาสมทบกัน และได้พยายามที่จะบุกขึ้นไปบนรถตู้ หมายเลขทะเบียน ฒว 9319 กทม. ที่พระหนูที ขับมาบิณฑบาตเพื่อที่จะนำเอาสุนัขของพระหนูทีลงมาจากรถ จนถูกพระหนูทีต่อว่า และเกิดการปะทะคารมกันอย่างรุนแรง ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะได้นำตัวพระหนูที ไปทำการสอบปากคำอย่างละเอียดในห้องสืบสวนหลังการตรวจสอบหลักฐานของพระหนูที
โดย นายธีรพงษ์ อินทร์พันธุ์ ผู้ช่วย ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่า พระหนูที เป็นพระที่ผ่านการบวชมาตามขั้นตอนทางพุทธศาสนาจริง จึงได้นิมนต์ให้ไปพบกับพระปัญญา วิสุทธิโมรี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพนิมิตร ซึ่งเป็นวัดที่ทำการของเจ้าคณะตำบลหน้าเมือง ให้ช่วยพิจารณาถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า เป็นความผิดทางพระธรรมวินัย หรือทางสงฆ์หรือไม่
โดยพระปัญญา วิสุทธิโมรี ได้ทำการว่ากล่าวตักเตือนด้วยวาจา เนื่องจากเห็นว่าความผิดไม่เด่นชัดว่ามีการทารุณกรรมสัตว์จริงหรือไม่ แต่ได้เห็นว่า การที่พระสงฆ์นั้นขับรถยนต์ออกมาบิณฑบาตเอง และขับรถเดินทางไกลเองผ่านมาหลายจังหวัดนั้น จึงดูไม่เหมาะสม ส่วนทางคดีนั้นได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นฝ่ายนำไปพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้ทางพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อพระหนูที ในข้อหากระทำการทารุณกรรมสัตว์ ตามที่มีผู้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ พร้อมกับจะได้ทำการยึดของกลางคือ สุนัขของพระหนูที ไว้ก่อน โดยหลังทำการสอบปากคำเสร็จสิ้นก็จะทำการปล่อยตัวพระหนูที กลับไป และจะทำการส่งหมายเรียกตัวกลับมาดำเนินคดีอีกครั้ง หลังจากทางพนักงานสอบสวนได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินคดีเสร็จสิ้นแล้วต่อไป