บุรีรัมย์- ศพเหยื่อถังสารเคมีดับเพลิงตึก SCB กลับถึงบ้านเกิดบุรีรัมย์ เพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวญาติพี่น้อง ขณะน้องสาวพิการวอนขอความเป็นธรรม อย่าโยนความผิดให้ผู้เสียชีวิตว่าเกิดจากความประมาท ควรแสดงความรับผิดชอบดูแลครอบครัวของเหยื่อที่ต้องสูญเสียมากกว่า
เมื่อเวลา 00.30 น. (16 มี.ค.) เจ้าหน้าที่มูลนิธิพร้อม นายแสวง แล่นโคตร บิดา และพี่สาว ได้นำศพของ นายสายฝน แล่นโคตร อายุ 41 ปี 1 ใน 8 คนงานที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ถังดับเพลิงปล่อยสารเคมีบริเวณชั้นใต้ดินของอาคารเอสซีบีปาร์ค (SCB) หรือธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เมื่อคืนวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา กลับมาถึงบ้านเกิดที่บ้านเลขที่ 24 ม.18 บ.หนองหว้า ต.ห้วยหิน อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ เพื่อมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณีแล้ว
ทันทีที่ศพของนายสายฝนมาถึง ครอบครัวและญาติพี่น้องที่มาเฝ้ารอรับศพที่บ้านต่างร่ำไห้ด้วยความโศกเศร้าเสียใจที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปอย่างกะทันหันจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะพ่อและแม่ที่ยังทำใจไม่ได้กับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เบื้องต้นครอบครัวมีกำหนดจะตั้งสวดอภิธรรมศพเป็นเวลา 2 วัน จากนั้นจะประกอบพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 17 มีนาคมนี้ ที่วัดสระมะค่า ในหมู่บ้าน
นางสมปอง แล่นโคตร น้องสาวผู้เสียชีวิตกล่าวว่า พี่สายฝนถือเป็นเสาหลักของครอบครัวที่คอยดูแลพ่อแม่ซึ่งอายุมากแล้ว รวมถึงดูแลตนด้วย เพราะตนพิการแขนขาอ่อนแรงทำให้ไม่สามารถไปทำงานหนักได้ หลังจากต้องสูญเสียพี่ชายไปยังไม่รู้จะทำอย่างไร
ส่วนจากกระแสข่าวที่ว่าเจ้าหน้าที่ได้สรุปสาเหตุแล้วว่าเกิดจากความประมาทของคนงานที่เข้าไปทำการปรับปรุงซ่อมบำรุงระบบความปลอดภัยภายในอาคารจนทำให้ถังเกิดระเบิดมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายนั้น อยากวิงวอนขอความเป็นธรรมให้แก่พี่ชายและคนงานที่เสียชีวิตทั้งหมดด้วย ไม่ควรปัดความผิดให้คนตายที่ไม่มีโอกาสได้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทางผู้รับเหมารวมถึงผู้บริหารธนาคารไทยพาณิชย์ควรแสดงความผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหาแนวทางเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวเหยื่อที่เสียชีวิตมากกว่า