xs
xsm
sm
md
lg

ฝึกวิชาโจรจาก “ยูทิวบ์”! ตร.โคราชรวบยกแก๊งลักจยย.รายใหญ่ ลักมา 3 ปีกว่า 100 คัน(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ร่วมแถลงตำรวจสภ.เมืองนครราชสีมารวบยกแก๊งลักจยย.รายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 3 รายของกลางอื้อ สารภาพฝึกวิธีปลดล็อกรถจากยูทิวบ์-เฟซบุ๊ก ลักมาแล้วกว่า 100 คัน วันนี้ ( 14 มี.ค.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตำรวจ สภ.เมืองโคราชรวบยกแก๊งลัก จยย.รายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 3 ราย ของกลางอื้อ สารภาพทำมากว่า 3 ปี เผยฝึกวิชาโจรวิธีปลดล็อกรถจาก “ยูทิวบ์-เฟซบุ๊ก” จนชำนาญ โจรกรรมมาแล้วกว่า 100 คัน พุ่งเป้ารถจอดตามหอพัก ตลาดนัด และแหล่งชุมชน ก่อนส่งชำแหละขายให้เครือข่ายที่อยุธยา ล่าสุดถอยเก๋งมือสองตระเวนลักรถเป็นอาชีพ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (14 มี.ค.) ที่ด้านหน้า สภ.เมืองนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา พ.ต.อ.สันติ เหล่าประทาย รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา และ พ.ต.อ.ปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เมืองนครราชสีมา ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์รายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 3 ราย

ประกอบด้วย นายอรรถวุฒิ หรือแบงค์ ภีระคัม อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ม.5 ต.หนองนาก อ.หนองแค จ.สระบุรี, นายประทีป หรือทีป ฟักฉ่ำ อยู่บ้านเลขที่ 44/1 ม.3 ต.หันตะเภา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และ นายเอกภณ หรือชาย ทองพรกุลนาท อยู่บ้านเลขที่ 61/1 ม. 3 ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี

พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ 5 คัน คือ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีขาว หมายเลขทะเบียน ครล 571 นม จำนวน 1 คัน (ของกลางในคดี), ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูโม่เอ็กซ์ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขูดหมายเลขตัวรถออก จำนวน 1 คัน, ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูโม่เอ็กซ์ สีส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขูดหมายเลขตัวรถออก จำนวน 1 คัน, ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100s สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน กวว 303 ชัยภูมิ จำนวน 1 คัน และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น MSX สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กจ 1781 กาฬสินธุ์ จำนวน 1 คัน (ของกลางในคดี)

รวมทั้งชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์จำนวนมาก แผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์จำนวน 5 แผ่น อุปกรณ์ในการลักรถจักรยานยนต์จำนวนหนึ่ง และเสื้อผ้าและรถยนต์ 1 คัน โดยมีผู้เสียหายจำนวนมากเดินทางมาดูของกลาง

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมาได้รับแจ้งจาก น.ส.เสาวณีย์ มวลตะคุ ผู้เสียหาย ว่ารถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ในหอพักศิริผล ซ.ลำปรุ 2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมาหายไป เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ พบคนร้ายเป็นชายรูปร่างอ้วน สวมหมวกกันน็อกชนิดครึ่งใบ ใช้ผ้าปิดจมูกปิดบังใบหน้า สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำ กางเกงขายาวสีครีม รองเท้าผ้าใบ สะพายกระเป๋าข้างไว้ในเสื้อแจ็กเก็ต เข้ามาในที่เกิดเหตุแล้วนั่งบนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย จากนั้นดึงเอาอุปกรณ์ที่กระเป๋าสะพายออกมาแทงเข้าไปในรูกุญแจ แล้วขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายหลบหนีไป

จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายลักษณะดังกล่าวได้ก่อเหตุลักษณะเดียวกันหลายครั้งโดยมีกล้องวงจรปิดจับภาพได้ ลักษณะการแต่งกายคล้ายกัน กระทั่งพบตัวผู้ต้องหา ตรงกับคนร้ายที่ลักรถจักรยานยนต์ตามหอพัก เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนขอทำการตรวจค้น พบอุปกรณ์เหล็กรูปตัวที, เสื้อผ้าที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด

ผู้ต้องหารับว่าเป็นผู้ประกอบเหตุลักรถจักรยานยนต์ตามหอพักจริง จากนั้นได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยึดรถจักรยานยนต์ของกลาง จากการสอบสวนขยายผลผู้ต้องหารับว่าได้ก่อเหตุในลักษณะแบบนี้เป็นประจำในเขตพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา และพื้นที่ใกล้เคียงมานานกว่า 3 ปี โดยเรียนรู้วิธีการปลดล็อกคอรถจักรยานยนต์จากโซเชียลมีเดีย ทั้งเฟซบุ๊ก (Facebook) และยูทิวบ์ (You tube) เน้นลักรถที่จอดไว้ตามหอพัก, ตลาดนัด สถานศึกษา และแหล่งชุมชน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะล็อกคอรถไว้เท่านั้น

โดยลักรถมาแล้วกว่า 100 คัน เมื่อได้รถจักรยานยนต์มาแล้วทุกครั้งจะนำไปขายให้ นายเอกภณ หรือชาย ทองพรกุลนาท ที่ จ.สระบุรี ในราคาคันละประมาณ 3,000-10,000 บาท ตามสภาพรถ นำเงินมาใช้จ่าย และซื้อรถยนต์เก๋งมือสองมาตระเวนลักรถในพื้นที่อื่นๆ

จากนั้นได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปตรวจสอบนายเอกภณ ที่คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี ไปถึงพบนายเอกภณ กับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น MSX สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กจ 1781 กาฬสินธุ์ ที่แจ้งหายไว้ที่ สภ.โพธิ์กลาง

เจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผล นายเอกภณรับว่าได้รับซื้อรถจักรยานยนต์จากนายอรรถวุฒิ แล้วนำมาจำหน่ายต่อให้นายประทีป หรือทีป ฟักฉ่ำ ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทันที โดยบวกราคาเพิ่มจากที่รับซื้อจากนายอรรถวุฒิอีกคันละ 500-1,000 บาท

จากนั้นได้พาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเดินทางไปตรวจสอบที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พบตัวนายประทีป และสามารถตรวจยึดชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์จำนวนมาก จากการตรวจสอบพบหลักฐานทางทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่แจ้งหายไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา จึงจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งตำรวจจะได้ตรวจสอบรถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่รถจักรยานยนต์เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ หากประชาชนสงสัยว่ารถจักรยานยนต์หรือชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ถูกแก๊งดังกล่าวลักไปสามารถมาดูของกลางได้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติม





กำลังโหลดความคิดเห็น