กาฬสินธุ์ - กองทัพนกปากห่างนับหมื่นตัวอพยพเข้าพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ บุกนาข้าวหากินหอยเชอรี่ ด้านเกษตรกรหวั่นทำนาปรังเสียหาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เตือนชาวบ้านอย่าทำร้ายนกปากห่าง เหตุเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ฝ่าฝืนได้รับโทษตามกฎหมาย
วันนี้ (5 มี.ค.) จากการติดตามสภาพอากาศในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ช่วงหน้าหนาวคาบเกี่ยวกับหน้าแล้งที่สภาพอากาศแปรปรวนสลับร้อนสลับหนาว และแห้งแล้ง หลายพื้นที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคและทำการเกษตร นอกจากนี้ ยังพบว่ามีฝูงนกปากห่างอพยพเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก โดยเข้ามาเหยียบย่ำต้นข้าวในนาปรังของเกษตรกรที่กำลังเติบโต สร้างความหวาดหวั่นต่อชาวนา เกรงว่านาข้าวจะได้รับความเสียหาย
นายชัยรัตน์ พันธุ์เผือก อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 22 หมู่ 1 ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เนื่องจากภัยแล้งปีนี่ส่อเค้ารุนแรงน้ำที่จะใช้ทำนาปรังไม่พอใช้ จึงลดพื้นที่ทำนาปรังเหลือ 3 ไร่ ขณะนี้กำลังเจริญเติบโต แต่กลับประสบปัญหามีฝูงนกปากห่างอพยพเข้าพื้นที่ โดยลงเหยียบย่ำต้นข้าวเพื่อหากินหอยเชอรี่ ทำให้นาข้าวได้รับความเสียหาย
กรณีมีฝูงนกปากห่างอพยพเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากหลายภูมิภาค รวมทั้งเขตที่นกปากห่างเคยอาศัยประสบภัยแล้งคุกคาม แต่พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ได้ทำนาปรังบ้าง มีหอยเชอรี่ตามไร่นา ซึ่งเป็นอาหารของนกปากห่าง จึงทำให้นกปากห่างบุกเข้ามาหากิน ผลเสียคือ ฝูงนกปากห่างมีจำนวนมาก คาดว่าจำนวนไม่น้อยกว่า 1 หมื่นตัว ทำให้นกเหยียบย่ำต้นข้าวหักเสียหาย
ด้าน นายนิยม กิติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า นกปากห่างอาศัยไม่เป็นหลักแหล่ง ชอบเกาะกลุ่มหากินตามพื้นที่มีแหล่งน้ำ กรณีอพยพเข้าพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ได้จัดเจ้าหน้าประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านช่วยกันอนุรักษ์ เพราะโดยความเป็นจริงนกปากห่างช่วยกำจัดศัตรูข้าวในนาได้ดี
โดยเฉพาะการกินหอยเชอรี่ศัตรูของต้นข้าว และช่วยรักษาระบบนิเวศ ทั้งนี้ ขอเตือนประชาชนว่าอย่าทำร้ายหรือจับมาทำอาหาร เนื่องจากนกปากห่างนั้นเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง หากใครฝ่าฝืนจะต้องได้รับโทษตามกฎหมายแน่นอน