จันทบุรี - รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางตรวจติดตามสถานการณ์ผลไม้ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี วางแผนป้องกันแก้ไขปัญหาผลผลิตล้นตลาด ราคาตกต่ำ และเพิ่มช่องทางการกระจายผลไม้ สร้างรายได้เกษตรกรในรูปแบบประชารัฐ
วันนี้ (2 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นำคณะเดินทางมาตรวจติดตามสถานการณ์ผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก เพื่อวางแผนป้องกันแก้ไขปัญหาผลผลิตล้นตลาด ราคาตกต่ำ และเพิ่มช่องทางการกระจายผลไม้ออกจากพื้นที่แหล่งผลิต สร้างรายได้แก่เกษตรกร โดย นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นำหัวหน้าส่วนราชการ และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ และบรรยายสรุปที่ห้องประชุม 4 ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี
หลังจากนั้น คณะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเดินทางไปเยี่ยมชมการรับซื้อผลไม้ส่งออกที่ล้ง ตง ฟาง หง ตำบลแสลง อำเภอเมือง และเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจเกษตรกร ชมสวนลำไยของ นายอำนาจ จันทรส ชมกระบวนการรวบรวมลำไยส่งออกประเทศจีน ที่ บริษัท ไชน่า จิน กว่อ หยวน อำเภอโป่งน้ำร้อน ซึ่งจังหวัดจันทบุรี ถือเป็นแหล่งผลิตผลไม้ที่สำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะผลไม้เศรษฐกิจหลัก 7 ชนิด
เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง กล้วยไข่ สละ และลำไย โดยจังหวัดจันทบุรี มีการบูรณการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรูปแบบประชารัฐ ในการดูแลผลผลิตของเกษตรกรตั้งแต่การผลิตให้ได้คุณภาพตามที่ตลาดต้องการ การปรับปรุงพัฒนา การบริหารจัดการ การกระจายสินค้าสู่ตลาดปลายทางทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมทั้งการติดตามสถานการณ์ ประเมินแนวโน้มการตลาด การป้องกันแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงที่ผลไม้ออกสู่ตลาดจำนวนมาก ในรูปแบบจันทบุรีโมเดล เป็นแบบอย่างในการป้องกันแก้ปัญหา และส่งเสริมรายได้เกษตรกรอย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน ผลไม้คุณภาพของจังหวัดจันทบุรีเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ ดังจะเห็นได้จาก ลำไยนอกฤดูมีผู้ประกอบการต่างชาติชาวจีน และเวียดนามมาตั้งล้งรับซื้อผลไม้ส่งออกในพื้นที่จันทบุรีจำนวนมาก ผลผลิตลำไยนอกฤดูมากกว่าร้อยละ 90 ส่งออกไปประเทศจีน รองลงมาได้แก่ ทุเรียน กล้วยไข่ มังคุด ลองกอง และเงาะ ตามลำดับ
สำหรับสถานการณ์ผลไม้ภาคตะวันออก ปี 2559 คาดว่า ปริมาณผลผลิตจะมีปริมาณ 1.06 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเฉลี่ย 5.72 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศเหมาะสม และปีที่ผ่านมาราคาดีเกษตรกรจึงดูแลเอาใจใส่ผลผลิตโดยเฉพาะทุเรียน เพิ่มขึ้น 367,161 ตัน (6.80 เปอร์เซ็นต์) มังคุดเพิ่มขึ้น เป็น 135,647 ตัน (16.16 เปอร์เซ็นต์) ส่วนลองกองลดลงเป็น 53,202 ตัน (0.39 เปอร์เซ็นต์
โอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวกำชับในเรื่องการดูแลเกษตรกรเกี่ยวกับการให้ความเป็นธรรมทางด้านการค้า ที่กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง ได้ร่วมประชุมเจรจาหารือแนวทางจัดการในเรื่องนี้โดยมีข้อสรุปเห็นว่า แต่ละกระทรวงมีระเบียบ หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่ชัดเจนอยู่แล้ว จึงขอให้หน่วยปฏิบัติตามความรับผิดชอบดำเนินการอย่างเคร่งครัดเพื่อความเป็นธรรมแก่เกษตรกร อย่างไรก็ตาม ขอให้เกษตรกรที่ทำสัญญาซื้อขายผลไม้ล่วงหน้าตามเงื่อนไข ราคา และคุณภาพ ต้องช่วยกันดูแลผลผลิตให้ได้มาตรฐาน รักษาคุณภาพ และชื่อเสียงของประเทศไทย