เลย - หลังรัฐบาลรับทราบการนำเสนอโครงการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง เกิดความเห็นต่างขึ้นในพื้นที่ เผยกลุ่มผู้ประกอบการเห็นด้วยอย่างยิ่ง มั่นใจกระตุ้นเศรษฐกิจ จ.เลย กลับมาคึกคักทั้งช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศ ด้านกลุ่มนักท่องเที่ยว-ลูกหาบไม่อยากให้สร้าง เหตุลบมนต์เสน่ห์ภูกระดึง ทั้งกระทบอาชีพลูกหาบ
หลังจากที่รัฐบาลรับทราบโครงการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง อำเภอภูกระดึง จ.เลย มูลค่า 633 ล้านบาท จากการเสนอของ อพท.เพื่อขอมติ ครม.เดินหน้าสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง โดยความคิดเห็นของ ครม.จะแบ่งใช้งบประมาณออกเป็น 3 ปี ปีละ 200 ล้านบาทเพื่อดำเนินการก่อสร้าง โดยจะไปรับฟังเสียงจากประชาชนในพื้นที่ ชาวบ้าน ภาครัฐ นักธุรกิจ ภาคเอกชน ยืนยันว่าให้เกิดการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงนั้นจะเกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ และสามารถสร้างรายได้มหาศาลในพื้นที่จังหวัดเลย
ทั้งนี้ จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ผู้ประกอบการร้านค้า และชาวภูกระดึง ส่วนใหญ่ในเขตเทศบาลภูกระดึง มีความคิดเห็นเหมือนกัน คือเห็นด้วยที่ ครม.จะดำเนินการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูดึง โดยนายนฤมิตร สาณะเสน อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 3 ตำบลภูกระดึง ซึ่งเป็นร้านค้าที่อยู่ในเทศบาลภูกระดึง กล่าวว่า เห็นด้วยอย่างยิ่งเนื่องจากการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงจะนำรายได้ เข้าอำเภอภูกระดึง และทำให้เศรษฐกิจโดยรวมนั้นดีขึ้น มีเงินหมุนเวียนในพื้นที่ภูกระดึงจะเจริญมากขึ้นกว่าเก่า 30 ปีที่ผ่านมา จึงต้องการให้สร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง
ขณะที่ น.ส.มารีน อ้วนพรหม นักท่องเที่ยวจาก จังหวัดพังงา กล่าวว่า อยากให้คิดถึงธรรมชาติ ความเป็นเสน่ห์ของภูกระดึงเป็นหลัก ให้มีคำว่าเดินเท้า เพราะเป็นเสน่ห์และเอกลักษณ์ของภูกระดึง หากมีกระเช้าไฟฟ้าก็จะขาดเอกลักษณ์นี้ไป อยากให้เป็นอยู่แบบนี้เก็บไว้ให้ลูกหลานได้ดู ได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร หากต้องการที่จะมีกระเช้าไฟฟ้าหรือมีรถยนต์ขึ้นไปด้านบนภูเขาก็ให้ไปจัดทำที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ที่มีรถผ่านเข้าไปรบกวนธรรมชาติอย่างที่เราเห็นจนทำให้ช้างป่าออกมาเดินกันวุ่นวาย
ด้านลูกหาบ 2 คน คือ นายประดุง หอมคำ และนายวรสิทธิ์ เจริญสวัสดิ์ ตัวแทนลูกหาบ ภูกระดึง กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่อยากให้สร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง เพราะความเป็นเอกลักษณ์ของภูกระดึงจะหมดไป อนาคตของลูกหาบจะตายและหมดลงไปทันที เมื่อมีกระเช้าแล้วนักท่องเที่ยวจะต้องไปใช้บริการของกระเช้าอย่างแน่นอน เมื่อกระเช้าเดินทางเพียง 30 นาที แต่ลูกหาบต้องหาบไปกว่า 4-5 ชั่วโมง ลูกหาบนั้นจะไปอยู่ตรงไหนของภูกระดึง หากไปทำงานกับกระเช้าไฟฟ้าจะอยู่ส่วนไหน เขาคงไม่ต้องการลูกหาบแล้ว
ทั้งนี้ นายประดุงกล่าวอีกว่า หากมีการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงจริง คงไปขัดเขาไม่ได้หรอกเพราะลูกหาบมีเพียง 300 กว่าคน ถือเป็นคนส่วนน้อย และหากสร้างจริงก็ควรคำนึงถึงกลุ่มลูกหาบ ละควรการจ่ายค่าชดเชยเสียโอกาสที่ต้องสูญเสียอาชีพของบรรบุรุษให้กลุ่มลูกหาบด้วย