ศูนย์ข่าวศรีราชา - เอาไม่อยู่! กลุ่มหาบเร่ แผงลอยกว่า 300 ราย ทะลักงานเทศกาลท่องเที่ยว “สีสันตะวันออก 2559” ครั้งที่ 2 ริมหาดพัทยา รวมตัวกดดันอยากขายของด้วย รองเมืองพัทยาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทันควัน จัดโซนนิ่งริมทะเลพัทยากลางให้ทำกิน คนพัทยาเอือมรัฐ-เอกชนตบปากรับคำแก้ปัญหาได้เพราะเป็นงานระดับกลุ่มจังหวัดสุดท้ายหนีไม่พ้นภาพปัญหาเดิมๆ
(25 ก.พ.) จากกรณีที่ตัวแทนกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด กำ หนดจัดกิจกรรมเปิดงานเทศกาลท่องเที่ยว “สีสันตะวันออก 2559” ครั้งที่ 2 บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยาบีช จ.ชลบุรี และชายหาดเมืองพัทยา ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 25-28 กุมภาพันธ์นี้ ด้วยงบประมาณกว่า 3 ล้านบาท โดยภายในงานกำหนดให้มีการออกร้าน OTOP ร้านอาหารขึ้นชื่อแบบปรุงสำเร็จและปรุงสุกในงาน แหล่งท่องเที่ยว ที่พักโรงแรมจาก 4 จังหวัดภาคตะวันออก รวมทั้งสิ้น 120 บูธ กินพื้นที่ตลอดแนวถนนขายหาดพัทยาระยะกว่า 400 เมตร และเวทีแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินบริเวณลานอเนกประสงค์
ข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้มีกระแสวิพากย์วิจารณ์อย่างมากต่อรูปแบบและพื้นที่ของการจัดกิจกรรมดังกล่าวว่าการนำพื้นที่ชายหาดมาจัดกิจกรรมนั้นอาจไม่มีความเหมาะสม ด้วยหลายกิจกรรมประจำปีของเมืองพัทยาที่ผ่านมาซึ่งจัดขึ้นบนพื้นที่เดียวกันที่มีการออกร้านจำหน่ายสินค้านั้น มักมีปัญหาความไม่เป็นระ เบียบอย่างมาก โดยเฉพาะกรณีของกลุ่มผู้ประกอบการหาบเร่-แผงลอยที่มาแฝงตัวหากินซึ่งเป็นต้นตอที่ทำให้ภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวเสียหาย โดยปัญหาเหล่านี้ถือเป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นมานาน กระทั่งที่ผ่านมา 2 สมาคมหลักอย่าง สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา และสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก ได้จัดทำหนังสือเสนอให้เมืองพัทยาปรับเปลี่ยนพื้นที่จัดใหม่เพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้น จนเป็นที่มาของการหารือร่วมและมีบทสรุปเพื่อยกเลิกการจัดงานพื้นที่ชายหาดและย้ายพื้นที่จัดใหม่ไปไว้ในพื้นที่เฉพาะ โดยนำร่องที่ งานเทศกาลปีใหม่หรือ พัทยาเคาท์ดาวน์ แต่ปรากฏว่างานสีสันตะวันออกครั้งนี้กลับมาใช้พื้นที่ตลอดแนวชายหาด จนทำให้สังคมเกิดความสงสัยต่อนโยบายที่ไม่มีความชัดเจน และมองไม่เห็นถึงเหตุผลความจำเป็นที่จะต้องมีการยกเว้นเป็นการเฉพาะ
ทั้งนี้ในเวลาต่อมาจากกระแสที่เกิดขึ้นเมืองพัทยาพร้อมด้วยตัวแทนจากสมาคมนักธุรกิจและการท่อง เที่ยวเมืองพัทยา ได้จัดประชุมเพื่อชี้แจงและแถลงจุดยืนต่อสื่อมวลชน โดยระบุสาเหตุถึงการกำหนดพื้นที่ชาย หาดเพื่อจัดงานสีสันตะวันออก เนื่องจากเป็นงานระดับกลุ่มจังหวัด ขณะที่รูปแบบงานก็มีคอนเซปต์ชัดเจนคือเรื่องของการแสดงสินค้า OTOP และกิจกรรมด้านท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัด โดยยังคงแสดงจุดยืนที่ต่อต้านปัญหาแผงลอยอย่างเด็ดขาดไม่มีเจตนาห้ามการจัดกิจกรรมชายหาด ซึ่งจากนี้จะมีการกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันปัญหาหาบเร่-แผงลอยที่จะแฝงตัวเข้ามาทำกินในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างจริงจัง และหากภาพรวมของงานเสียหายก็อาจจะเสนอให้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ของงานดังกล่าวใหม่ในกิจกรรมในอนาคต
อย่างไรก็ตามหลังพิธีเปิดงานแล้วเสร็จสุดท้ายก็มีกลุ่มผู้ประกอบหาบเร่-แผงลอยกว่า 300 ราย ได้รวม กลุ่มกันเพื่อกดดันเจ้าหน้าที่ในการขอพื้นที่จัดวางสินค้าขายของ เพราะถือเป็นงานริมชายหาดพัทยาที่จัดขึ้นงานแรกของปีและหวังจะได้อานิสงค์จากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินชมงาน ซึ่งต่อมานายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนา ยกเมืองพัทยา ได้นำกำลังเข้าเจรจาก่อนจะทำการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยมีคำสั่งอนุญาตให้กลุ่มหาบเร่-แผงลอยค้าขายได้ในพื้นที่โซนนิ่งตั้งแต่บริเวณศาลเจ้าพ่อเกตุงาม ปากซอย 6 ถนนเลียบชายหาด มาถึงแยกชายหาดพัทยา แต่ต้องมีการเปรียบเทียบปรับตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด ซึ่งสร้างความพอใจให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าดังกล่าวเป็นอย่างมาก ก่อนจะตั้งโต๊ะจัดวางจำหน่ายสินค้าต่างๆหลากหลายชนิด ซึ่งต่อมามีการขยายแนวค้าขายจนเต็มพื้นที่ชายหาด
มีรายงานเพิ่มเติมว่าก่อนหน้านี้มีกระแสทักท้วงจากสังคมว่าเมื่อยกเลิกการจัดงานพื้นที่ชายหาดไปแล้วพบว่าภาพรวมของการจัดงานดูเหมาะสมและมีระเบียบดี แต่เมื่อมีการยกเว้นในบางกิจกรรมที่ไม่ว่ารูป แบบงานจะกำหนดไว้เช่นใดแต่หากมีการจัดตั้งเต๊นท์ขายของริมชายหาดก็คงไม่สามารถกดดันและแก้ไขปัญ หาดังกล่าวได้กระทั่งเป็นที่มาของปัญหาซ้ำๆขึ้นอีก ขณะที่กำลังของเจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาบูรณการในการแก้ไขก็ไม่ได้มีมาตรการจริงจังเหมือนกิจกรรมที่ผ่านมาเนื่องจากงบประมาณมีเพียงจำกัดเท่านั้น