รองนายกพัทยาแจงยูเทิร์นสุขุมวิทหลังกระแสสังคมขย่มรอบสอง

ศูนย์ข่าวศรีราชา - กระแสสังคมขย่มรอบสอง ปัญหาจุดกลับรถสุขุมวิททำเสร็จแต่ไม่เปิดใช้ พร้อมติดป้ายตำหนิประจานกลางถนน ด้านเมืองพัทยา แจงเหตุที่ต้องชะลอเพราะหวั่นอุบัติภัยบนผิวจราจร เตรียมเสนอขอจัดสรรงบเร่งด่วน 5 แสน ติดตั้งป้ายขนาดใหญ่ พร้อมระบบเตือนภัยเสริม ชี้มั่นใจพร้อมเปิดใช้กลางเดือนเมษายนนี้

จากกรณีที่เมืองพัทยา ได้ตั้งงบประมาณกว่า 1.29 ล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างจุดกลับรถบนถนนสุขุมวิท ใกล้ปากทางเข้าซอยหนองกระบอก เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการใช้เส้นทาง แต่ปรากฏว่า หลังก่อสร้างแล้วเสร็จกลับไม่เปิดใช้ พร้อมนำแท่งปูนแบริเออร์ขนาดใหญ่มาปิดกั้นไว้ กระทั่งต่อมา ได้เกิดกระแสสังคมตำหนิการดำเนินการดังกล่าวว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากเสียงบประมาณในการดำเนินการเป็นจำนวนมากแต่กลับไม่เกิดการใช้ประโยชน์จริง

ต่อมา ทางเมืองพัทยา พร้อมผู้เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมทำการปรับปรุงสภาพแวดล้อมโดยรอบ ทั้งการปรับพื้นที่เกาะกลางถนนเพื่อเปิดทัศนวิสัยมุมมองให้แก่ผู้ขับขี่ การติดตั้งสัญญาณไฟกะพริบ และเส้นเตือน เพื่อทำให้เกิดความชัดเจน และการป้องกันปัญหาอุบัติภัยบนท้องถนนที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างล่อแหลม พร้อมมีกำหนดเปิดจุดกลับรถอย่างเป็นทางการไปแล้ว

มีรายงานว่า ปัจจุบันพบว่าจุดกลับรถดังกล่าวยังคงไม่มีการปิดกั้นเส้นทางไว้ และไม่อนุญาตให้มีการใช้งานแต่อย่างใด จนล่าสุด มีบุคคลบางกลุ่มนำป้ายประกาศขนาดใหญ่ไปติดตั้งไว้ในพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีข้อความระบุตัดพ้อ และตำหนิการทำงานที่ล่าช้าของเมืองพัทยาอีกครั้ง

จากกรณีที่เกิดขึ้น นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา ได้ออกมาเปิดเผยว่า กรณีนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในสังคม ซึ่งเรื่องนี้เมืองพัทยาเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ

หลังการลงพื้นที่สำรวจพร้อมทำการแก้ไขปรับปรุงระบบเตือนภัยไปแล้วก็เตรียมพร้อมที่จะเปิดดำเนินการ แต่ปรากฏว่า มีการนำเรื่องเข้าหารือในส่วนของคณะกรรมการจัดระเบียบรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งรวมเอาผู้แทนจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งอำเภอบางละมุง ทหาร ตำรวจ และภาคเอกชน จนสรุปว่าพื้นที่นี้ยังคงเป็นจุดล่อแหลม

เนื่องจากมีปัญหารถที่ชอบตัดช่องทางจราจรกะทันหันเพื่อมุ่งเข้าสู่ห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้เคียง จึงเห็นสมควรเพื่อเพิ่มเติมระบบแจ้งเตือน และป้องกันเหตุให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะป้ายบอกทางขนาดใหญ่แบบแขวนฝั่งละ 2 ป้าย รวม 4 ป้าย เส้นเตือนที่ต้องเพิ่มระยะมากขึ้น รวมทั้งป้ายบอกจุดกลับรถ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จำเป็นต้องใช้งบประมาณดำเนินการกว่า 5 แสนบาท โดยหากดำเนินการแล้วเสร็จจึงจะอนุญาตให้เปิดใช้อย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโครงการนี้ไม่มีการตั้งงบประมาณไว้ จึงจำเป็นต้องใช้งบฉุกเฉิน หรืองบสำรองจ่ายของเมืองพัทยา ซึ่งการดำเนินการตามระเบียบราชการมีขั้นตอนหลายด้าน ทั้งการประมูลงาน เปิดซองหาผู้รับจ้าง การสอบราคา และอื่นๆ โดยคาดว่ากว่าจะแล้วเสร็จคงต้องใช้เวลาถึงประมาณกลางเดือนเมษายนนี้จึงจะเปิดจุดได้ โดยขอยืนยันว่าเมืองพัทยาพร้อมดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมสูงสุด