ศูนย์ข่าวศรีราชา - สมาชิกสภาเมืองพัทยา ตัดพ้อปัญหาจุดกลับรถฉาวบนถนนสุขุมวิท ระบุเป็นโครงการที่มีปัญหา แม้จะเคยทักท้วง แต่สภากลับผ่านฉลุย พร้อมติดตามปัญหาการ์ดเร็วป้องกันเหตุบนถนนที่ผู้เกี่ยวข้องไม่แก้ไขจนเกิดปัญหาขึ้น
นายสนิท บุญมาฉาย สมาชิกสภาเมืองพัทยา กล่าวอภิปรายอย่างมีอารมณ์กลางที่ประชุมสภาเมืองพัทยา ว่า สำหรับกรณีโครงการจุดกลับรถ หรือยูเทิร์นบนถนนสุขุมวิท ช่วงปากทางหนองกระบอก ใกล้กับห้างสรรพสินค้าแม็คโครพัทยาใต้นั้นถือเป็นโครงการที่มีปัญหา เนื่องจากส่วนตัวแล้วมองว่าเป็นพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมที่จะก่อให้เกิดอันตรายบนท้องถนนได้ โดยเรื่องนี้ในช่วงที่จะมีการนำเสนอเพื่อขอจัดสรรงบประมาณผ่านมายังสภาเมืองพัทยานั้นก็เคยได้ชี้แจง และทักท้วงไปแล้วต่อที่ประชุม แต่สุดท้ายก็ปรากฏว่า โครงการนี้ผ่านความเห็นชอบจากสมาชิกเสียงข้างมาก สุดท้ายเมื่อผ่านความเห็นชอบ และนำงบประมาณลงไปดำเนินการจัดสร้างก็ไม่อาจเปิดทำการได้กระทั่งมีกระแสตำหนิจากสังคม จึงมองว่าการพิจารณาโครงการนั้นค่อนข้างจะง่ายเกินไป
นายสนิท กล่าวต่อไปว่า นอกจากโครงการจุดกลับรถแล้ว โครงการที่งานฝ่ายจราจรเมืองพัทยาเคยเสนอขอจัดสรรงบประมาณจากสภาเมืองพัทยา จำนวนกว่า 10 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อการ์ดเร็วแบบ Safety Roller ไปติดตั้งไว้ริมทางบริเวณถนนเลียบทางรถไฟหน้าสถานีรถไฟพัทยา แต่สภาเล็งเห็นว่า โครงการดังกล่าวไม่เกิดประโยชน์ต่อการป้องกันอุบัติภัยบนท้องถนนมากนักจึงระงับโครงการไป
แต่ปรากฏว่า ยังมีความพยายามผลักดันให้โครงการเกิดขึ้นโดยไปเสนอของบประมาณจากสำนักงบประมาณ กระทั่งได้รับงบประมาณจำนวนหลายสิบล้านเพื่อนำมาติดตั้งไว้ในปัจจุบัน ทั้งบริเวณถนนเลียบทางรถไฟ เขา สทร.5 เขาพระตำหนัก และพื้นที่ชุมชนบ้านเกาะล้าน กรณีดังกล่าวหากเป็นแผนงานที่สร้างประโยชน์ให้แก่พื้นที่ก็คงเป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้ แต่จากการตรวจสอบมาตรฐานด้านการติดตั้งแล้วจะพบว่า การ์ดเร็วที่หน่วยงานนี้นำไปติดตั้งนั้นไม่สอดคล้องตรงต่อวัตถุประสงค์ หรือใช้งานได้อย่างสมประโยชน์ตามคำกล่าวอ้าง กลับมีการนำไปใช้ผิดรูปแบบไม่ส่งผล หรือเอื้อประโยชน์ต่อการป้องกันภัยบนถนน
เนื่องจากมีการติดตั้งบนไหล่ทาง รวมทั้งติดตั้งบนเส้นทางตรงที่ไม่ส่งผลต่อการป้องกัน และยังทำให้ถนนมีลักษณะคับแคบลงจนที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวประสบเหตุ และเสียชิวิตคาเครื่องป้องกันนี้ไปแล้วถึง 2 ราย ซึ่งกรณีเหล่านี้สภาเมืองพัทยาได้หยิบยกมาหารือเพื่อร้องขอให้แก้ไขแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีการตอบรับที่เป็นรูปธรรม โดยจากนี้จะมีการติดตาม และประสานผู้เกี่ยวข้องเพื่อให้ไปดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจังต่อไป