กาญจนบุรี - เพลิงเผาศาลา “วัดบ้านจะแก” วอดทั้งหลัง ยากที่จะช่วยเหลือทัน เหตุตั้งอยู่กลางป่าทุ่งใหญ่ฯ ห่างจากอำเภอสังขละบุรีกว่า 80 กม. ต้องใช้เวลาร่วม 6 ชม. ด้าน นอภ.พร้อมนายกเล็กไล่โว่ เตรียมเข้าพื้นที่ช่วยบรรเทาทุกข์ เจ้าอาวาสเผยเงินบริจาคสูญ 1.5 แสนบาท ค่าเสียหาทั้งหมดประมาณ 1 ล้าน ชวนบริจาควัสดุบูรณะขึ้นใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 02.30 น.วันนี้ (24 ก.พ.) เกิดเหตุเพลิงไหม้ศาลาวัดจะแก หมู่ 6 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยเปลวเพลิงโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากศาลาหลังดังกล่าวก่อสร้างด้วยไม้ที่มีสภาพเก่า ก่อสร้างมาแล้วประมาณ 32 ปี จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้พระประธาน รวมทั้งวัตถุมงคลต่างๆ ที่ใช้ประกอบเกี่ยวกับพิธีทางศาสนาถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด นับว่าโชคดีที่ พระฐิตะ พุโณ เจ้าอาวาสวัดจะแก อายุ 49 ปี เดินทางไปรับกิจนิมนต์ที่วัดศรีสุวรรณ์ ส่วนพระลูกวัดอีก 1 รูป พักผ่อนอยู่ที่กุฏิที่อยู่ใกล้กัน
ล่าสุด นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี นายสมชาย วุฒิพิมลวิทยา นายก อบต.ไล่โว่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ รวมทั้งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี กำลังหาทางช่วยเหลือ ซึ่งคณะทั้งหมดจะต้องใช้เวลาในการเดินทางเข้าพื้นที่ประมาณ 6-7 ชั่วโมง เนื่องจากวัดจะแก ตั้งอยู่ใจกลางของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร การเดินทางค่อนข้างลำบากเนื่องจากถนนค่อนข้างคับแคบ และคดเคี้ยว ต้องขึ้นเขาลงห้วยตลอดที่สูงชันตลอดเส้นทาง ส่วนรถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะในการเดินทางต้องเป็นรถยนต์โฟร์วีลขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น.นายปกรณ์ กรรณวัลลี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า หลังจากที่ตนได้รับรายงาน เบื้องต้น ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ อส.อำเภอสังขละบุรี จัดหารถโฟร์วีลเดินทางเข้าไปตรวจสอบเพื่อหาทางให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว แต่ต้องใช้เวลาในการเดินทางมากพอสมควร และการสื่อสารค่อนข้างลำบากเนื่องจากในพื้นที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ แต่อย่างไรก็ตามทางอำเภอจะเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ด้าน นายสมชาย วุฒิพิมลวิทยา นายก อบต.ไล่โว่ เปิดเผยทางโทรศัพท์เช่นกันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 02.30 น. ซึ่งปกติแล้วเจ้าอาวาสวัดบ้างจะแก รวมทั้งพระลูกวัดอีก 1 รูป จะนอนพักผ่อนอยู่บนศาลาหลังดังกล่าว และหากมีนักท่องเที่ยวไปที่วัดก็จะอาศัยนอนอยู่บนศาลาเช่นกัน แต่โชคดีขณะเกิดเหตุไฟไหม้ เจ้าอาวาสได้เดินทางมารับกิจนิมนต์ที่วัดศรีสุวรรณ ส่วนพระลูกวัดที่มีอยู่ 1 รูป ก็ไปนอนพักผ่อนที่กุฏิ จึงไม่มีผู้ได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากการสอบถาม พระฐิตะ พุโณ เจ้าอาวาสวัดที่เดินทางมาพบตนที่บ้านพัก ก็ทราบว่า ที่วัดไม่มีไฟฟ้าใช้ หากต้องการไฟแสงสว่างต้องใช้เทียนเท่านั้น ดังนั้น สาเหตุน่าจะเกิดจากการจุดเทียนเอาไว้ส่องสว่างแล้วลืมดับ ซึ่งขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารพรานประจำฐานทหารพรานกองร้อยที่ 1406 บ้านจะแก พยายามเข้าไปช่วยสกัดเปลวเพลิงแต่ไปไม่ทัน เนื่องจากระยะทางไกล แต่อย่างไรก็ตาม ทาง อบต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
ด้าน พระฐิตะ พุโณ เจ้าอาวาสวัดบ้านจะแก อายุ 49 ปี เปิดเผยว่า สำหรับวัดมีลักษณะเป็นศาลาใช้ประกอบพิธีสงฆ์ และทำพิธีทางศาสนาต่างๆ อีกทั้งยังเป็นจุดศูนย์รวมของชาวบ้านที่มาร่วมทำกิจกรรมงานบุญ และงานประเพณีต่างๆ และยังเป็นที่พบปะระหว่างเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐกับประชาชน รวมทั้งเป็นที่พักค้างแรมของนักท่องเที่ยวที่เข้าไปท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าวด้วย
โดยศาลาก่อสร้างด้วยไม้ ขณะไฟไหม้จึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้นพบว่า ทรัพย์สินของวัด รวมทั้งพระประทาน และเงินสดที่ได้รับจากการทำบุญ จำนวน 1.5 แสนบาท ถูกไฟเผาไหม้ทั้งหมด
ส่วนค่าเสียหายทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม อยากให้ผู้มีจิตศรัทธาช่วยกันบริจาคเพื่อบูรณะศาลาวัดที่เป็นศูนย์รวมของชาวบ้าน และเป็นที่พักของหน่วยงานราชการ และนักท่องเที่ยวขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง