ลำปาง - ผู้บัญชาการ มทบ.32 นำทหารช่วยซ่อมบ้านอดีตพลทหารต้องคดีลักไม้โรงงานน้ำตาล จนถูกตัดสินจำคุก 16 เดือน พร้อมประสานหน่วยงานช่วยดูแลทางคดี ขณะที่เจ้าตัวยันหยิบไม้ข้างทางมาแผ่นเดียวเท่านั้น ยัน ตร.มาค้นบ้านก็เจอแค่ไม้ 1 แผ่น ไม่รู้เรื่องทรัพย์สินโรงงานน้ำตาลถูกขโมยรวม 9 รายงาน
วันนี้ (11 ก.พ.) พล.ต.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ ผบ.มทบ.32 ณ ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง พร้อมด้วย พ.ท.สุรศักดิ์ สุขแสง ผบ.ร.17 พัน.2, ผู้แทนนายอำเภอเกาะคา, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะคา, นายกเทศมนตรีเทศบาลเกาะคา ได้นำสิ่งของไปมอบแก่ครอบครัวของ นางฟองจันทร์ ศรีบุญเรือง อายุ 55 ปี และพลทหาร สัจจพันธุ์ จารณา อายุ 23 ปี ณ บ้านเลขที่ 47 ม.5 ต.เกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง พร้อมนำทหารเข้าทำการซ่อมแซมบ้านให้อยู่ในสภาพดีหลังบ้านทรุดโทรมใกล้พัง
โอกาสนี้ พล.ต.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ ผบ.มทบ.32 ได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้แก่ทหารช่างเพื่อทำการซ่อมแซมบ้านของสองแม่ลูกให้เสร็จเรียบร้อย พร้อมนำสิ่งของจากแม่ทัพภาคที่ 3 ที่ได้ฝากมอบให้ด้วย
ขณะที่นายเอกสิทธิ์ มานะรุ่งโรจน์ ทนายความ ได้มอบเงินจำนวน 2 หมื่นบาท ที่ผู้ใจบุญร่วมบริจาคเพื่อประกันตัว แต่เนื่องจากทาง มทบ.32 ให้นายทหารไปเป็นนายประกัน จึงได้นำเงินมามอบให้ครอบครัวพลทหาร สัจจพันธุ์ เพื่อใช้เป็นทุนในการทำมาหากินต่อไป
นายเอกสิทธิ์ได้กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเองไม่ได้รู้จักครอบครัวนี้ แต่เมื่อพลทหาร สัจจพันธุ์ร้องขอความช่วยเหลือจึงได้เข้ามาดู ซึ่งตอนแรกมีทนายขอแรงช่วยอยู่ ตนจึงขอเข้าไปช่วย แต่ทนายขอแรงได้มอบให้ตนเป็นทนายความเพียงลำพัง ซึ่งตนก็พร้อมที่จะช่วย และเมื่อมาเห็นบ้านก็ยิ่งสงสารครอบครัวของพลทหาร สัจจพันธุ์ เนื่องจากยากจนและมารดาก็ทำงานไม่ค่อยไหวเพราะเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูก
เมื่อสอบถามความจริงและดูสภาพที่เกิดเหตุทั้งหมด ตนก็เชื่อว่า พลทหาร สัจจพันธุ์ หยิบไม้ที่อยู่ข้างทางมาเพียงแผ่นเดียวจริง ซึ่งจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบที่บ้านก็พบเพียงไม้แผ่นเดียวจริง ซึ่งตนเข้ามาช่วยด้วยความบริสุทธิ์ใจ และต้องกราบขอโทษองค์กรศาลและที่เกี่ยวข้องหากทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะตนได้ชี้แจงในส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงที่ได้เข้ามาตรวจสอบเท่านั้น
“ส่วนที่ศาลตัดสินผมก็เคารพการตัดสินของศาล ซึ่งก็ต้องสู้กันในข้อเท็จจริงในชั้นอุทธรณ์ต่อไป”
ด้าน พล.ต.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ ผบ.มทบ.32 กล่าวว่า ขณะนี้ตนก็ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งอัยการ ตำรวจ และทนาย เพื่อต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งก็เป็นสิทธิโดยชอบธรรมที่ผู้ต้องหาทำได้ ซึ่งก็คงต้องขอความเมตตาจากศาลการทำหน้าที่รับใช้ชาติ ส่วนที่เขากระทำความผิดที่ไปหยิบฉวยเอาของคนอื่นที่อยู่ข้างทาง ซึ่งก็ถือว่าผิดศีลข้อ 2 ก็คงต้องเป็นไปตามที่ศาลได้ตัดสินไปแล้ว แต่เราก็จะขอความเมตตาจากศาลในชั้นอุทธรณ์
“สิ่งที่อยากฝากกับทุกคนคือ หากเราเห็นของอะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ใช่ของเรา และตกอยู่ อย่าไปเอาเด็ดขาด”
พล.ต.วิจักขฐ์ย้ำว่า ส่วนที่เข้ามาดูแลครอบครัวมาซ่อมบ้านให้ก็เป็นคนละส่วนกัน เรามาเห็นแล้วว่าบ้านของเขายากจน ต้องดูแลบุพการี และในอดีตเขาเคยเป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของหน่วยทหารของจังหวัดลำปาง เราก็ต้องเข้ามาช่วย พร้อมกับหน่วยงานหลายหน่วย ซึ่งก็ถือว่าเป็นการช่วยเหลือกันของสังคม โดยเฉพาะสังคมของทหาร
ขณะที่พลทหาร สัจจพันธุ์ได้กล่าวว่า ตนยอมรับว่าไปหยิบไม้จากข้างทางเพียงแผ่นเดียวมาจริง แต่ของอื่นๆ ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวหาว่าตนพร้อมกับพวกเข้าไปขโมยทรัพย์สินรวม 9 รายการ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะคาได้ระบุว่าเป็นทรัพย์ของบริษัทน้ำตาลทิพย์กำแพงเพชร จำกัด หรือที่รู้จักโรงงานน้ำตาลเกาะคา ที่หายไปนั้น ตนไม่ได้ลักแต่อย่างใด
“เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบที่บ้านก็พบเพียงไม้แผ่นเดียวเท่านั้นจริงๆ ซึ่งตนก็ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ได้เข้ามาช่วยเหลือตนเองกับครอบครัวในครั้งนี้”
