ลำปาง - วอนคนใจบุญเมตตาช่วยลูกชายอดีตพลทหารหนุ่มลำปางวัย 23 ปี หยิบไม้เก่ากว้าง 4 นิ้ว ยาว 2 เมตร จากข้างถนนแผ่นเดียวเอาไปซ่อมบ้าน ถูกจับติดคุกนาน 16 เดือน วงเงินประกันตัวสูงถึง 250,000 บาท ครอบครัวยากจน แม่งัดประตูบ้านขายแล้ว 3 บานยังไม่พอเช่าหลักทรัพย์
นายเอกสิทธิ์ มานะรุ่งโรจน์ ทนายความ ได้นำผู้สื่อข่าวไปยังบ้านเลขที่ 47 ม.5 ต.เกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง เพื่อพบกับนางฟองจันทร์ ศรีบุญเรือง อายุ 55 ปี มารดาของ พลทหาร สัจจพันธุ์ จรณา อายุ 23 ปี ซึ่งถูกคุมขังอยู่เรือนจำกลางตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากถูกจับในคดีร่วมกันลักทรัพย์ของโรงงานน้ำตาล
นายเอกสิทธิ์เปิดเผยว่า พลทหาร สัจจพันธุ์ได้ร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากไม่ได้กระทำความผิด ไม่มีเงินในการประกันตัว ฐานะครอบครัวยากจน ตนจึงได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสอบถามญาติพี่น้องทั้งหมด เชื่อว่า พลทหาร สัจจพันธุ์พูดความจริง
เพราะไม้ที่เป็นของกลางเป็นเพียงไม้เก่ากว้างประมาณ 4 นิ้ว ยาวประมาณ 2 เมตร เพียงแผ่นเดียว โดยตัว พลทหาร สัจจพันธุ์ก็ยอมรับว่าหยิบไม้แผ่นดังกล่าวมาจากข้างถนน ซึ่งติดกับรั้วของโรงงานน้ำตาล เนื่องจากเห็นอยู่ข้างทางมา 2 วันก็คิดว่าคงมีคนทิ้งจึงถือวิสาสะเก็บกลับบ้านเพื่อจะนำมาซ่อมบ้านเท่านั้น และสายไฟยาว 30 เซนติเมตรก็เป็นของ พลทหาร สัจจพันธุ์ หลังจากปลดประจำการ พลทหาร สัจจพันธุ์มีความถนัดในการทำอาหารและเป็นช่าง ทุกวันออกไปทำงานก็จะผ่านบริเวณที่เก็บไม้ได้ทุกวัน เมื่อเก็บมาแล้วก็นำมาไว้ใต้ถุนบ้าน ก็ไม่ได้เก็บซ่อนแต่อย่างใด
“ข้อมูลที่ตรวจสอบต่างจากเอกสารของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ลงบันทึกว่าพบไม้ และสายไฟยาวถึง 5 เมตร”
นายเอกสิทธิ์กล่าวต่อว่า ต้องการที่จะประกันตัว พลทหาร สัจจพันธุ์ออกมาเพื่อต่อสู้คดี เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง แต่ต้องมีหลักทรัพย์ถึง 250,000 บาท การเช่าหลักทรัพย์ก็ต้องใช้เงินถึง 30,000 บาท ขณะที่ครอบครัวของ พลทหาร สัจจพันธุ์รวบรวมเงินได้เพียงหมื่นกว่าบาท
“ในเงินจำนวนนี้นางฟองจันทร์ มารดาพลทหารสัจจพันธุ์ ต้องงัดประตูห้องที่เป็นไม้สักไปขายถึง 3 บานได้เงินเพียงพันกว่าบาทเท่านั้นเพื่อนำมารวบรวมประกันตัวลูก แต่ก็ไม่พอ ผมจึงนำเรื่องไปโพสต์ทางเฟซบุ้กและเปิดบัญชีรับบริจาคเพียง 2 วันก็ได้เงินมาหมื่นกว่าบาท แต่ก็ยังขาดอีกประมาณ 8-9 พันบาท ซึ่งก็จะพยายามรวบรวมเงินเพื่อจะช่วยประกันตัวออกมาสู้คดีให้ได้”
ขณะที่นางฟองจันทร์ ได้ไหว้ขอความเมตตาให้ช่วยบุตรชาย เพราะเชื่อว่าบุตรชายไม่เคยมีนิสัยลักเล็กขโมยน้อย หลังจากปลดจากทหาร ก็ทำงานเป็นช่างทุกวัน เพื่อหารายได้ช่วยครอบครัว ตนเองก็เจ็บป่วยเกี่ยวกับกระดูกทำงานมากไม่ได้ แต่ก็ต้องทำไส้อั่วไปขายทุกวัน ได้กำไรวันละ 100-200 บาทเท่านั้น บ้านก็ทรุดโทรมใกล้จะพัง ไม่มีเงินจะมาซ่อมแซม สงสารลูกอยากประกันตัวออกมา แต่ก็ไม่มีเงินจึงวอนคนเมตตาช่วยลูกด้วย