xs
xsm
sm
md
lg

1 ปีคดีไม่คืบ! กองปราบฯ ลุยสางคดีสาวแบงก์ตุ๋นเงินกว่า 40 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางธิดารัตน์ ภูขลิบม่วง (นาชัยเพิ่ม) หรือหญิง อดีตหัวหน้าแผนกรับเงินธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งใน อ.กมลาไสย
กาฬสินธุ์ - กองปราบปรามลุยสางคดีสาวแบงก์กาฬสินธุ์ตุ๋นเงินลูกค้ากว่า 40 ล้านบาท หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านผู้เสียหายภายหลังเข้าแจ้งความต่อตำรวจท้องที่และขอหมายศาลนำจับแต่คดีกลับไม่คืบ หวั่นปล่อยคนผิดลอยนวล แฉเบื้องหลังสาวแบงก์แสบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งคนมีสี วอน สตง. ป.ป.ช.ตรวจสอบทรัพย์สินด้วย

กรณีชาวบ้านใน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นำโดยนายธนวัฒน์ แฝงจันดา อาชีพค้าขาย อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 167 หมู่ 4 ต.กมลาไสย และนางปิยรัตน์ ซ้ายหนองขาม อาชีพค้าขาย อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 176 หมู่ 1 ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย พร้อมพวกรวม 5 คน ได้เข้าสอบถามความคืบหน้าคดีที่พวกตนเข้าแจ้งความร้องทุกข์ เหตุถูกนางธิดารัตน์ ภูขลิบม่วง (นาชัยเพิ่ม) หรือหญิง อดีตหัวหน้าแผนกรับเงินธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งใน อ.กมลาไสย หลอกตุ๋นเงินสูญรายละหลายแสน-5 ล้านบาท รวมกว่า 10 ล้านบาท หรือหากรวมกับผู้เสียหายที่ยังไม่เข้าแจ้งความ รวมจำนวนเงินที่ถูกตุ๋นไปไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท

โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อ 1 ปีผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี ดังเสนอข่าวแล้วนั้น
พ.ต.ท.สุวิจักขณ์  กู้พิมายวรกูล สารวัตรกองกำกับการ 3  กองบังคับการปราบปราม ลงพื้นที่ประสานกับ พ.ต.ท.อำพร  สายมะณี พงส.ผนพ.สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีที่ชาวบ้านถูกนางธิดารัตน์ ภูขลิบม่วง (นาชัยเพิ่ม) หรือหญิง อดีตหัวหน้าแผนกรับเงินธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งใน อ.กมลาไสย หลอกเงินสูญรายละหลายแสน - 5 ล้านบาท
ล่าสุดวันนี้ (8 ก.พ.) พ.ต.อ.พลฑิต ไชยรส ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม สั่งการให้ พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ กู้พิมายวรกูล สารวัตรกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ลงพื้นที่ประสานข้อมูลเพิ่มเติมกับ พ.ต.ท.อำพร สายมะณี พงส.ผนพ.สภ.กมลาไสย เจ้าของคดี ทั้งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าและให้กำลังใจชาวบ้านผู้เสียหาย

พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ กู้พิมายวรกูล สารวัตรกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม กล่าวว่า คดีนี้เป็นภัยใกล้ตัวที่เกิดขึ้น สร้างความเสียหายเดือดร้อนแก่ชาวบ้านที่หลงเชื่อ ซึ่งผู้กระทำผิดอาศัยตำแหน่ง หน้าที่การงาน และความเป็นเพื่อนสนิท เป็นช่องทางแสวงหาผลประโยชน์ โดยหลอกลวงต้มตุ๋น

ทั้งนี้ คดีที่ชาวบ้านในอำเภอกมลาไสยถูกนางธิดารัตน์หลอกเงินไปรายละหลายแสนบาท โดยหลอกให้นำเงินสดเข้าฝากกับธนาคารฯ เพื่อปล่อยกู้ให้ลูกค้าที่นำที่ดินหรือบ้านจำนองกับธนาคารฯ ก่อนที่จะเชิดเงินหนีไป ซึ่งได้มาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.กมลาไสย และได้ออกหมายจับไปตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557

โดยถึงขณะนี้ยังไม่ได้เบาะแสผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ กองบังคับการปราบปรามฯ ได้รับการประสานจากชาวบ้านผู้เสียหาย จึงได้ลงพื้นที่เพื่อประสานข้อมูล และแนะนำแนวทางการติดตามตัวผู้กระทำผิด เนื่องจากคดีลักษณะนี้เพิ่งจะเกิดขึ้นในพื้นที่นี้”

นางบุญเหลือ บัณฑิโต อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 176 หมู่ 1 ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ญาติผู้เสียหายรายหนึ่งกล่าวว่า ก่อนหน้าที่นางธิดารัตน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ จะหนีไป ทราบว่าได้จดทะเบียนหย่ากับสามีที่เป็นข้าราชการครู (ม.เทคโนโลยีไทย-เยอรมัน จ.ขอนแก่น) ซึ่งทุกวันนี้อดีตสามีและน้องสาวอดีตสามีของนางธิดารัตน์มีความเป็นอยู่หรูหรา

จึงน่าเชื่อได้ว่าเป็นความร่ำรวยผิดปกติที่ได้จากการหลอกลวงเงินชาวบ้านมาบำเรอครอบครัวตนเอง จึงอยากวิงวอนให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้ง สตง. ป.ป.ช. ตรวจสอบทรัพย์สินด้วย

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในพื้นที่ระบุอีกว่า สาเหตุจากการที่คดีไม่คืบหน้าเนื่องจากนางธิดารัตน์มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนมีสี ที่อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ถ่วงคดีนี้ไว้ ทำให้นางธิดารัตน์สามารถหนีลอยนวลไปได้
กำลังโหลดความคิดเห็น