ศาลแพ่งสั่งริบทรัพย์ 49 ล้าน “นิพัทธ พุกกะณะสุต” อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ ให้ตกเป็นของแผ่นดิน หลัง ป.ป.ช.พบพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ แม้อ้างได้มาจากการจำหน่ายวัตถุมงคล และการขายที่ดินของภรรยา แต่ไม่นำพยานบุคคลผู้ซื้อวัตถุมงคลมาสืบ รวมถึงที่มาของเงินที่ซื้อก็ไม่มีหลักฐานว่าภรรยาได้รับเงินค่าขายที่ดินมาอย่างไร
วันนี้ (14 ต.ค.) ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ศาลแพ่งได้อ่านคำพิพากษาคดีริบทรัพย์ ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษเป็นโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งริบทรัพย์สินของนายนิพัทธ พุกกะณะสุต อายุ 72 ปี อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ จำนวน 49 ล้านบาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่ได้มีการไต่สวนแล้วเห็นว่า ทรัพย์สินตามคำร้องจำนวน 49 ล้านบาท ที่นายนิพัทธได้มาขณะรับตำแหน่งอธิบดีกรมธนารักษ์นั้น นายนิพัทธอ้างว่าได้มาจากการจำหน่ายวัตถุมงคล และได้มาจากการขายที่ดินของภรรยา แต่นายนิพัทธไม่นำพยานบุคคลผู้ซื้อวัตถุมงคลมาสืบ รวมถึงที่มาของเงินที่ซื้อด้วย และไม่มีหลักฐานว่าภรรยาได้รับเงินค่าขายที่ดินมาอย่างไร พยานบุคคลที่นายนิพัทธนำมาสืบไม่น่าเชื่อถือ
เมื่อนายนิพัทธมีภาระการพิสูจน์ที่ต้องทำให้ศาลเห็นว่าทรัพย์สินจำนวน 49 ล้านบาท ไม่ได้เกิดจากการร่ำรวยผิดปกติตามที่ถูกกล่าวหา ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 81 แต่พยานหลักฐานที่นายนิพัทธนำสืบมาไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานของอัยการผู้ร้องได้ ดังนั้นจึงฟังได้ว่า ตั๋วสัญญาใช้เงินในชื่อนางอุบล พุกกะณะสุต และบุตรสาว จำนวน 49 ล้านบาท มาจากทรัพย์สินที่นายนิพัทธถูกกล่าวหามีมากผิดปกติหรือเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ และเป็นการร่ำรวยผิดปกติ
ศาลแพ่งจึงมีคำสั่งให้ทรัพย์สินจำนวน 49 ล้านบาทตกเป็นของแผ่นดิน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ มาตรา 80 (2)
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ศาลแพ่งถือเป็นศาลชั้นต้นที่มีคำสั่งให้ริบทรัพย์ ซึ่งตามกฎหมายนายนิพัทธ ผู้ถูกกล่าวหายังสามารถยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาที่ให้ริบทรัพย์ดังกล่าวภายใน 30 วันนับแต่ที่ศาลมีคำสั่งเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2558
สำหรับกรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อเดือน ต.ค. 2549 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ชี้มูลความผิดนายนิพัทธ อดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง และทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ซึ่งได้รับตำแหน่งที่ปรึกษากระทรวงการคลังว่ามีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ โดยการตรวจสอบ ป.ป.ช.พบหลักฐานว่านายนิพัทธ ผู้ถูกกล่าวหาและภรรยามีเงินฝากและดอกผลในสถาบันการเงิน 49 ล้านบาท ที่ไม่อาจชี้แจงได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยชอบอย่างใด
ขณะที่ ป.ป.ช.ได้รวบรวมหลักฐานแล้วกล่าวหานายนิพัทธได้ทรัพย์มาโดยไม่สมควร กรณีได้รับเงินสินบน 30 ล้านบาทจากบริษัทเอกชนเพื่อเป็นค่าตอบแทนการให้ชนะการประมูลโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุ บริเวณสถานีขนส่งหมอชิตใหม่ มูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท ในสมัยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และกรณีภรรยาได้รับเงิน 14 ล้านบาทที่อ้างว่าได้มาจากการทำสัญญาจะซื้อขายที่ดิน แต่กลับไม่มีการซื้อขายที่ดินตามที่กล่าวอ้างซึ่งได้ปรากฏ ป.ป.ช.จึงส่งสำนวนการไต่สวนให้นายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุดขณะนั้นเพื่อพิจารณายื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สิน 49 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากนายนิพัทธมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ